top of page

บทความจาก ศบ. 23 มิถุนายน 2024

คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดียิ่ง ขอให้ทุกๆ ท่านได้สัมผัสกับความรัก ฤทธานุภาพอันสูงสุดของพระองค์ทั่วถ้วนหน้ากัน ขอเริ่มต้นนำพี่น้องมาสู่พระวจนะของพระองค์ในพระธรรมโยชูวา 1:7-9 กล่าวดังนี้ “7เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด ระวังที่จะกระทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย เพื่อว่าเจ้าจะไปในถิ่นฐานใดเจ้าจะได้รับความสำเร็จ อย่างดี 8อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้น ทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี 9เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า”” โมเสสได้กล้าวเตือนสอนโยชูวาให้ใช้ชีวิต หรือให้สร้างชีวิตโดยพระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระคำจะเปิดเผยแผนการอันดีที่เป็นน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่ชีวิตของเรา ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามนั้นจะพบกับชัยชนะ ความแข็งแกร่งในชีวิต ไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคปัญหาหรือภยันตรายใดๆ ทั้งสิ้น พระคำจะสอนสติปัญญาไหวพริบในการดำเนินชีวิตทุกๆ ด้านของชีวิต พระคำสร้างชีวิตแห่งความเชื่อวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า พระคำสอนให้เราห่างไกลจากความบาปผิดต่างๆ ชีวิตของโยชูวาได้บันทึกไว้เป็นประจักษ์พยานหลักฐานถึงคุณค่าและความสำคัญในการดำเนินชีวิตตามพระวจนะที่ได้สอนเราเอาไว้ ในยามเข้มแข็งคือยามที่ชีวิตเต็มไปด้วยพระคำ ยามพ่ายแพ้อ่อนแอส่วนใหญ่มาจากความบาป การละเลยชีวิตตามที่พระวจนะได้สอนเราเอาไว้ พระคำเป็นกฎหมายที่ดีรอบครอบ มีชีวิตฝึกตนให้เป็นคนต้นเรือน เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น เป็นคนเต็มไปด้วยความรัก พระคำเตือนสติเราในการดำเนินชีวิตอันปราศจากอุบายใดๆ “13เราขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้รับพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งท่านได้ยินจากเรา ท่านไม่ได้รับไว้อย่างเป็นคำของมนุษย์ แต่ได้รับไว้ตามความเป็นจริง คือเป็นพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งกำลังทำงานอยู่ภายในท่านทั้งหลายที่เชื่อ” 1 เธสะโลนิกา 2:13 พระคำเสริมสร้างการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข “63จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต” ยอห์น 6:63 พระคำ

ก. สร้างความเชื่อให้ฝังรากลึกในชีวิตของเราได้

ข. พระคำเปิดเผยเส้นทางแห่งชีวิตที่เราควรจะต้องดำเนินในทางของพระองค์

เราควรจะมีชีวิตในพระคำโดยจะกล่าวโดยสังเขปคือ

(1) เชื่อฟังและยอมรับสิทธิอำนาจอันสูงสุดในพระคำและหรือตามพระคำที่ได้สอนเราไว้ “11ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของ พระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์ 12ข้าแต่พระเจ้า สาธุการแด่พระองค์ ขอทรงสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพระองค์” สดุดี 119:11-12 คนของพระองค์จะสะสมพระคำไว้ในชีวิต ท่องจำ ภาวนา ทบทวน เรียนรู้ในพระคำเสมอๆ ตลอดชีวิตของตนเอง

(2) สร้างชีวิตในพระคำฝึกฝนวินัยแห่งชีวิตตามที่พระคำสอน เช่น ชีวิตการอธิษฐาน การนมัสการ การเฝ้าเดี่ยว แบ่งปันพระคำให้แก่ผู้อื่น เป็นต้น ชีวิตที่ได้รับการพัฒนาแล้ว จะมั่นคงไม่หวาดหวั่น พรั่นพรึงต่อสิ่งใดๆ เลย สามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงในทางของพระองค์ เข้าใจถึงแผนการน้ำพระทัยต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตจะชื่นชมยินดีเสมอและจะขอบพระคุณพระองค์ในทุกๆ กรณี ฯลฯ ยอมจำนนทั้งชีวิตต่อพระองค์ดุจดัง กรณีศึกษาของนางมารีในการทรงบังเกิดของพระคริสต์เจ้าที่ได้บันทึกไว้ในพระธรรมลูกา 1:34-38 ดังนี้ว่า “34ฝ่ายมารีย์ทูลทูตสวรรค์นั้นว่า “เหตุการณ์นั้นจะเป็นไปอย่างไรได้ เพราะข้าพเจ้ายังหาได้ร่วมกับชายไม่” 35ทูตสวรรค์จึงตอบนางว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้นบุตรที่จะเกิดมานั้น จะได้เรียกว่าวิสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า 36ดูซิ ถึงนางเอลีซาเบธญาติของเธอชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์มีบุตรเป็นชายด้วย บัดนี้นางนั้นที่คนเขาถือว่าเป็นหญิงหมัน ก็มีครรภ์ได้หกเดือนแล้ว 37เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” 38ส่วนมารีย์จึงทูลว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นไปตามคำของท่าน” แล้วทูตสวรรค์นั้นจึงจากเธอไป

(3) ดำเนินชีวิตตามรูปแบบหรือกรอบที่พระวจนะได้กำหนด หรือสอนเราไว้ แสวงหาพระองค์เสมอ ชีวิตในทุกๆ มิติ ทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณล้วนมุ่งมั่นมีเป้าหมายมุ่งตรงสู่อาณาจักรหรือแผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ ชีวิตนี้ขาดพระคำไม่ได้ ใจและชีวิตขอให้จดจ่อที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นสำคัญ “18เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจะฟังอย่างไรก็จงเอาใจจดจ่อ เพราะว่าผู้ใดมีอยู่แล้ว จะทรงเพิ่มเติมให้แก่ผู้นั้นอีก แต่ผู้ใดไม่มี แม้ซึ่งเขาคิดว่ามีอยู่นั้น จะทรงเอาไปจากเขา” ลูกา 8:18 และ “24ดูเถิด เกิดพายุใหญ่ในทะเลสาบจนคลื่นซัดท่วมเรือ แต่พระองค์บรรทมหลับอยู่ 25และพวกสาวกได้มาปลุกพระองค์ ทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยเถิด พวกเรากำลังจะจมอยู่แล้ว”” มัทธิว 8:24-25 ชีวิตของคนที่นำพระคำมาเป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตย่อมเป็นพระพรแก่ทั้งตนเองและต่อผู้อื่นต่อๆ ไปอย่างไม่สิ้นสุดได้นั่นเอง

องค์พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบแก่เราแล้วให้เราตามอย่างพระองค์ รับใช้พระองค์ร่วมกัน “1ในปฐมกาลพระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า 2ในปฐมกาลพระองค์ทรงดำรงอยู่กับพระเจ้า 3พระเจ้าทรงสร้างสิ่งทั้งปวงขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นมานั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่ได้เป็นมานอกเหนือพระวาทะ 4พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์ 5ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้ชนะความสว่างไม่” ยอห์น 1:1-5 และพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด

เพลง สรรเสริญพระเจ้าผู้อำนวยพร

Verse: D               F#m   G       D 1: สรรเสริญพระเจ้า   ผู้อำนวยพร G          D                 A7 สรรเสริญพระเจ้าเหล่าประชากร D   F#m G     D        G สรรเสริญองค์พระบิดา  พระบุตร A7           D

bottom of page