สุขสันต์วันปีใหม่ 2023 สู่ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่
“พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” วิวรณ์ 21:4
ยุคเดิมได้ผ่านไปแล้ว ยุคมักเกี่ยวข้องกับเวลาระยะเวลา เช่นในอดีต ในปัจจุบันและหรือเวลาในอนาคต เป็นต้น ยุคเกี่ยวพันกันกับอารยธรรม เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันและอื่นๆ อีกมากมายหลากหลาย สังคมยุคทันสมัย 4.0 เข้าสู่ 5.0 เป็นอาทิ ในสังคมสมัยใหม่สื่อสารของมนุษย์ชาติจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นหลักและในบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจะมีการพึ่งพิงเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เสียง ระบบสแกนใบหน้า ม่านตาเพื่อความปลอดภัย ฯลฯ ยานยนต์ต่างๆ จะถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ การไร้คนขับเป็นต้น ระบบการเงินเป็นระบบสังคมไร้เงินสดหรือเงินกระดาษอีกต่อไป การแพทย์ที่ทันสมัยการมีการรักษาด้วยยาและเทคโนโลยีสำหรับคนคนหนึ่งอย่างเหมาะสมด้วย AI, LOT, VR, Robot หรือ Big Data ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว พวกเราและคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าต้องเตรียมพร้อมและตื่นตัวอยู่เสมอในการเรียนรู้ปรับตัวอยู่เสมอๆ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สอนเราสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่น่าคิด คือองค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์เป็นอยู่ และทรงเป็นพระเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลงชนชาติอิสราเอลภายใต้การนำของโยชูวาที่นำคนอิสราเอลไปสู่การยึดครองดินแดนคานาอัน โยชูวา 1:1-18 (อ่านเพิ่มเติมเอง) การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่อาศัย
ก. พระสัญญาอันมั่นคงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ข. หรือเราต้องอดทนและมุ่งมั่นเข้าไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
ค. เราต้องอุทิศตนเพียรพยายามและกระทำตามพระธรรมคำสอนของพระองค์อย่าได้ขาด
ง. พึ่งพิงในฤทธานุภาพอันไม่จำกัดของพระองค์โดยอยู่ในการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระองค์นั่นเอง
เปาโลได้สอนเราถึงชีวิตสู่การเปลี่ยนแปลงในองค์พระผู้เป็นเจ้าตาม
พระธรรมเอเฟซัส 4:7-10 “7แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆคน ตามขนาดที่พระคริสต์ประทานให้ 8เหตุฉะนั้นจึงมีพระวจนะว่า ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูง พระองค์ก็ทรงนำพวกเชลยไป และประทานของประทานแก่มนุษย์ 9(ที่กล่าวว่าพระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น จะหมายความอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกแล้วด้วย 10องค์ผู้เสด็จลงไปนั้นก็คือพระองค์ผู้ที่เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งปวงนั่นเอง เพื่อจะได้สถิตอยู่ทั่วในสิ่งสารพัด)”
คือ
(1) คริสเตียนทุกๆ คนสามารถมีชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างได้โดยพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า
อันท่วมท้นและมากล้นในชีวิตของเรา พระองค์ประทานให้กับแต่ละคนอย่างเหมาะสมพอเหมาะพอดีแก่ทุกๆ คนเสมอหน้ากันทุกๆ คนกำลังถูกสร้างและยังไม่ครบบริบูรณ์
(2) องค์พระเยซูคริสต์เจ้าคือหัวใจของทุกๆ ยุคทุกๆ สมัย
แม้ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงก็ตามการได้เข้าใกล้ชิดในพระองค์ติดสนิทกับพระองค์เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นยิ่งในชีวิตของเราขอแต่เพียงให้เราวางใจในพระองค์ห่างไกลความบาปผิดตั้งพระองค์ไว้ตรงหน้าเราเสมอ พระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ จอมกษัตริย์ในชีวิตเรา ทรงเป็นมหาปุโรหิตและเป็นผู้พยากรณ์ที่สอนและนำพาชีวิตของเราสู่ความบริบูรณ์ในพระองค์ได้
“แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว” ยอห์น 10:16
(3) ความจริงแห่งพระธรรมจะนำพาชีวิตเราไปสู่จุดหมายปลายทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เราจะต้องใส่ใจศึกษาค้นคว้าเรียนรู้อยู่เสมอทำในสิ่งที่เราทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยโดยการทรงนำของพระองค์รับการฝึกฝนเสริมสร้างสิ่งต่างๆ เสมอไปความจริงจะทำให้เราทั้งหลายเป็นไทย
“31พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง 32และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท”” ยอห์น 8:31-32
เป็นสาวกของพระองค์เรียนจากพระองค์ เลียนแบบชีวิตอย่างพระองค์เสมอไป องค์ความรู้ในพระเป็นเจ้ามีมากมายหลายหลาก ตอบสนองชีวิตมนุษย์ในทุกๆ ด้านอย่างชัดเจนถูกต้องเสมออย่าลืมที่จะดื่มด่ำอยู่กับพระคำของพระองค์ซึ่งเป็นชีวิตของเรา
ยุคใหม่เป็นของทุกๆ คน ยุคใหม่เราต้องพึ่งพิงในองค์พระเยซูคริสตเจ้า ยุคใหม่ต้องไปกับพระธรรมคำสอนของพระองค์ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม