คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแห่งครอบครัวและเดือนแห่งการเสริมสร้างพัฒนาชีวิตของผู้นำคริสเตียน ตลอดทั้งเดือนได้เรียนรู้และเห็น เข้าใจถึงคุณค่าความสำคัญของชีวิตครอบครัวและชีวิตของผู้นำคริสเตียนอย่างบูรณาการ ในสัปดาห์นี้เราจะมาศึกษาถึงครอบครัวหนึ่งที่มีส่วนทุ่มเทอย่างเอาจริงเอาจังในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าโดยเฉพาะการเป็นผู้นำในคริสตจักรท้องถิ่นละดูแลครอบครัวตัวเองเป็นอย่างดี คือ ครอบครัวของอาควิลล่า และภรรยาชื่อปริสสิลลา ในพระธรรมกิจการ “1หลังจากนั้น เปาโลจึงออกจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองโครินธ์ 2ท่านได้พบยิวคนหนึ่งที่นั่นชื่ออาควิลลา ซึ่งเกิดในแคว้นปอนทัส แต่พึ่งมาจากประเทศอิตาลีกับภรรยาชื่อ ปริสสิลลา เพราะจักรพรรดิคลาวดิอัสมีรับสั่งให้พวกยิวทั้งปวง ออกไปจากกรุงโรม เปาโลจึงไปหาคนทั้งสองนั้น 3และได้อาศัยทำการอยู่กับเขา เพราะว่าทั้งสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์ด้วยกัน” กิจการ 18:1-3 และยังมีเพิ่มเติมอีกในข้อที่ 18-19 และข้อที่ 24-26 (ต้องเปิดศึกษาเพิ่มเติมเองครับผม) ครอบครัวนี้การรับใช้อาจจะไม่โดดเด่นและหรือมีชื่อเสียงโด่งดังมากมายแต่ก็ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างของชีวิตครอบครัวคริสเตียนที่ดีและมีส่วนในการนำคริสตจักรให้ได้เจริญเติบโตขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงใช้ครอบครัวนี้ในพันธกิจของพระองค์อย่างน่าคิดพร้อมๆ กับครอบครัวอื่นๆ เช่น ครอบคัวของนายคุก(ผู้คุมเรือนจำ)
ในกิจการ 16:30-31 “30และพาท่านทั้งสองออกมาแล้วว่า “ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรจึงจะรอดได้” 31เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า “จงเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย””
และครอบครัวของนางเอลิซาเบธ(ลูกา 1:41 และ ลูกา 1:67) ครอบคัวนี้ได้เต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณทั้งสามีของท่านคือเศคาริยาห์ ยิ่งกว่านั้นเราคุ้ยเคยกับชีวิตของทิโมธีคนหนุ่มลูกศิษย์เอกของท่านเปาโลก็มาจากครอบครัวที่รักพระองค์และมีส่วนในการรับใช้พระองค์
ครอบครัวที่เป็นแบบอย่างเหล่านี้มีสิ่งดีๆ ที่เราสามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์สอนเราคือ
(1) มีพระเยซูคริสต์หรือองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นศูนย์กลาง
เป็นผู้นำครอบครัว เป็นเจ้าของชีวิต เป็นทุกๆ สิ่งของชีวิต ครอบครัวที่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่ ทรงสถิตอยู่ด้วยย่อมเต็มอิ่ม และอบอุ่นด้วยพระคุณ พระพรในพระองค์ แสวงหาพระองค์สุดชีวิต ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกันเป็นอย่างดี เต็มไปด้วยคำขอบพระคุณ คำเสริมสร้าง การให้อภัยบาปแก่กันและกัน เห็นคุณค่าและเข้าใจกันและกัน มีความรอดมีชีวิตใหม่ในพระองค์ บังเกิดใหม่ ส่งต่อความเชื่อและชีวิตใหม่ไปยังคนรุ่นต่อๆ ไปในความเชื่อ ในพระวจนะเสมอไป โมเสสเตือนให้ทุกๆ ครอบครัวเชื่อฟังและยำเกรงในพระองค์ชั่วลูกชั่วหลานอย่างเอาใจใส่ “1“บัดนี้ โอคนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังกฎเกณฑ์และกฎหมายซึ่งข้าพเจ้าสอนท่านทั้งหลาย จงประพฤติตามเพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ และเข้าไปยึดครองแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทรงประทาน แก่ท่าน 2ท่านทั้งหลายอย่าเสริมเติมคำที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ และอย่าตัดออกเพื่อท่านทั้งหลายจะรักษา พระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน” เฉลยธรรมบัญญัติ 4:1-2 และท่านยังย้ำอีกว่า “18“เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงจดจำถ้อยคำเหล่านี้ของ ข้าพเจ้าไว้ในจิตในใจของท่านทั้งหลาย จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน 19และท่านจงสอนถ้อยคำเหล่านี้แก่บุตรหลานของท่านทั้งหลาย จงพูดถึงถ้อยคำเหล่านี้เมื่อท่านอยู่ในเรือน และเมื่อท่านเดินอยู่ตามทาง เมื่อท่านนอนลงหรือลุกขึ้น” เฉลยธรรมบัญญัติ 11:18-19 ครอบครัวที่ดีองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตอยู่ด้วยย่อมไม่ขาดซึ่งพระพรและของดีใดๆ เลย
(2) ทั้งครอบครัวมีส่วนร่วมกันรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าตามตะลันต์
ตามความสามารถของประทานที่ตนเองมีอยู่อย่างเอาใจใส่ด้วยดี เช่น ครอบครัวของโยชูวา ซึ่งเราคุ้นเคยดี “14เหตุฉะนั้น จงยำเกรงพระเจ้าและปรนนิบัติพระองค์ด้วยความจริงใจ และด้วยความซื่อสัตย์ จงทิ้งพระเหล่านั้นซึ่งบรรพบุรุษของ ท่านได้เคยปรนนิบัติที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำและในอียิปต์เสีย และท่านทั้งหลายจงปรนนิบัติพระเจ้า 15และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ใน ท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า” โยชูวา 24:14-15 ประกาศพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า สร้างสาวก ครอบครัวแต่ละครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไปในบริบทแต่ละคริสตจักรท้องถิ่น เช่น การมีส่วนร่วมในการอธิษฐาน การมีส่วนในการถวายทรัพย์ต่างๆ ในคริสตจักร ถวายตัวเป็นผู้รับใช้บางเวลา เต็มเวลาอื่นๆ ร่วมรับใช้ทั้งทางตรงและหรือทางอ้อมก็ได้ ออกทีมประกาศ ออกทีมเยี่ยมเยียน ถวายอาหาร สงเคราะห์ผู้ยากไร้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าลองเสาะหาดูว่าครอบครัวของเราสามารถเป็นพระพรแก่ผู้อื่นในด้านใด แล้วใช้สิ่งเหล่านั้นอย่างถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด
(3) รักษาชีวิตครอบครัวให้อยู่ในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เช่น นำครอบครัวเข้าร่วมนมัสการเป็นประจำสม่ำเสมอ ศึกษาพระวจนะร่วมกัน ออกทีมประกาศร่วมกัน สนับสนุนกันและกันในการรับใช้ ถวายเพลงพิเศษในคริสตจักรด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ต่อสู้กับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ โดยการพึ่งพาฤทธานุภาพในองค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมกัน สิ่งสำคัญคือสิ่งนี้ในครอบครัวจดจำใส่ใจไว้ให้มั่นคงในทุกๆ ครอบครัว อาเมน และอาเมน
“4ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง 5ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด 6ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ 7ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง” 1 โครินธ์ 13:4-7
ขอให้ทุกๆ ครอบครัวเข้มแข็งและแข็งแกร่งในพระองค์เสมอไป โดยมีองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงสถิตอยู่ท่ามกลางชีวิตครอบครัว และร่วมกันรับใช้พระองค์ตามตะลันต์ตามการทรงเรียกของพระองค์ เหนือสิ่งใดคือผูกพันกันในความรักของพระองค์เสมอไป พบกันใหม่ในเดือนหน้าครับผม เดือนแห่งการขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้า