คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่งในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแห่งครอบครัวและเดือนแห่งการเสริมสร้างชีวิตของผู้นำคริสเตียนอยากจะพาพี่น้องมาพิจารณาถึงลักษณะชีวิตองคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือเป็นผู้ตามชีวิตครอบครัวก็ดีควรจะฝึกชีวิตและพัฒนาลักษณะนิสสัยใจคอที่ดีตามที่พระวจนะได้สอนเราไว้ ซึ่งเรายอมรับว่าผู้ที่มีวินัยแห่งชีวิตย่อมพบแต่พระพร
“จงยึดวินัยไว้ และอย่าปล่อยไป จงระแวดระวังเธอไว้ เพราะเธอเป็นชีวิตของเจ้า” สุภาษิต 4:13
การฝึกชีวิตให้มีวินัยเป็นเรื่องที่ต้องอดทนนาน ใช้เวลาและต้องลงทุนสูงในหลากหลายสิ่งแต่ก็สุดคุ้มบั้นปลายเราจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลา เคารพสิทธิของผู้อื่น เป็นคนที่มีอุดมการณ์ รับผิดชอบสูง ขยันหมั่นเพียรและอื่นๆ อีกมากมาย คนมีวินัยจะไม่เป็นคนผลัดวันประกันพรุ่ง สิ่งที่ทำได้เขาจะลงมือทำทันที คนมีวินัยจะควบคุมตนเอง ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มั่นใจในตนเองในพระเป็นเจ้า เห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น คนมีวินัยได้เปรียบเพราะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเป็นพระพร ชีวิตที่ขาดวินัยมักจะพบแต่ความพ่ายแพ้ล้มเหลวต่างๆ
“คนที่ไม่มีความรู้ก็ไม่ดี และบุคคลที่เร่งเท้าหนักก็มักพลาดผิด” สุภาษิต 19:2
และเป็นเสมือนเมืองร้างเป็นต้น
“คนที่ปราศจากการปกครองตนเอง ก็เหมือนเมืองที่ปรักหักพังและไม่มีกำแพง” สุภาษิต 25:28
เราควรจะสร้างวินัยในชีวิตของเราในสิ่งที่จำเป็นและสำคัญตามที่พระวจนะได้สอนเรา คือ
(1) นิสสัยในการใช้จ่ายเงินทองอย่างสัตย์ซื่อและรู้จักประมาณตนเอง
ไม่ใช้จ่ายเกินตัวสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยและหรือชอบการหยิบยืมจากผู้อื่น รู้จักการถวายสิบลด รู้จักการอดออมและปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่องเป็นนิสสัย
“24บางคนยิ่งจำหน่ายยิ่งมั่งคั่ง บางคนยิ่งยึดสิ่งที่ควรจำหน่ายไว้ยิ่งขัดสนก็มี 25บุคคลที่ใจกว้างขวางย่อมได้รับความมั่งคั่ง บุคคลที่รดน้ำ เขาเองจะรับการรดน้ำ” สุภาษิต 11:24-25
และ
มาลาคี 3:10-11 “10พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์ เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่ 11เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้า และผลองุ่นในไร่นาของเจ้าจะไม่ร่วง พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ 12พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า แล้วประชาชาติทั้งสิ้นจะเรียกเจ้าว่า ผู้ที่ได้รับพระพร ด้วยว่าเจ้าจะเป็นแผ่นดินที่น่าพึงใจ”
คนที่ฝึกการใช้จ่ายอย่างสัตย์ซื่อต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า สัตย์ซื่อต่อตนเองและผู้อื่นจะมีสิ่งจำเป็นในชีวิตอย่างบริบูรณ์ไม่ขัดสนในสิ่งจำเป็นใดๆ เลย ในยามจำเป็นก็ไม่ขาดแคลน
(2) นิสสัยในการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง
เราคงจะคุ้นเคยกบพระวจนะตอนนี้เป็นอย่างดี
“ท่านที่รัก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านมีพลานามัยสมบูรณ์ และเจริญสุขทุกประการ อย่างจิตวิญญาณของท่านจำเริญอยู่นั้น” 3 ยอห์น 1:2
ร่างกายของเราคือวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเราจะต้องเอาใจใส่ดูแลให้ได้ใช้อย่างถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด คนขององค์พระผู้เป็นเจ้าควรเอาใจใส่
ก. บริโภคอาหารที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์เสมอ
ข. รู้จักการออกกำลังกาย พักผ่อนหลับนอนให้เพียงพอของแต่ละคน
ค. ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างดี เช่น มีจิตใจที่ร่าเริง ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ฯลฯ
ง. รู้จักการดูแลสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมและเป็นพระพรต่อสังคม เป็นต้น
(3) นิสสัยแห่งฝ่ายจิตวิญญาณที่พันผูกกับองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแนบแน่น
“ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์” สดุดี 27:4
และ
“อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว” ฮีบรู 10:25
ฝึกชีวิตในการเฝ้าเดี่ยวอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอไม่ขาดการนมัสการกับทางคริสตจักรโดยเข้าร่วมเป็นประจำเพื่อรับการเสริมสร้างและพัฒนาชีวิตอยู่เสมอ ร่วมกันกับทางคริสตจักรในการรับใช้พระองค์ตามตะลันต์และของประทานที่ตนเองมีอยู่อย่างมิได้ขาด การได้รับใช้ผู้อื่นคือการแบ่งปันชีวิต พระพรไปสู่ผู้อื่น ยิ่งแบ่งปันก็ยิ่งจะเต็มไปด้วยพระพรอย่างมากมายต่อมานั่นเอง
(4) นิสสัยแห่งการขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า
และชื่นชมยินดีในพระองค์เสมอไป ไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์โศกก็ตาม เราต้องเรียนรู้ที่จะวางภาระอันหนักอึ้งบนบ่าของเราลงที่พระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราคุ้นๆ กับพระวจนะตอนนี้อย่างแน่นอน
“28บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข 29จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก” มัทธิว 11:28-29
และ
“16จงชื่นบานอยู่เสมอ 17จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” 1 เธสะโลนิกา 5:16-18
โดยพึ่งพระคุณในพระองค์เราสามารถปรับตัวได้เสมอๆ โดยพระพรที่มีในองค์พระผู้เป็นเจ้า เปาโลจึงหนุนใจเราดังนี้
“12ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน 13ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” ฟิลิปปี 4:12-13
ขอฝึกชีวิตนิสสัยของเราให้เป็นคนที่สัตย์ซื่อในการใช้จ่ายบริหารจัดการชีวิต ขอให้เราได้ฝึกตนเองในการดูแลร่างกายจิตใจจิตวิญญาณของเราเป็นอย่างดี ขอให้เราได้ผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้าและผูกพันกับคริสตจักรคือ พระกายของพระองค์ และขอให้เรามีความชื่นชมและสันติสุขในพระองค์ได้เสมอๆ ในทุกๆ สถานการณ์ของชีวิตของเรา แล้วพบกันใหม่ในเดือนแห่งการขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าครับผม