top of page

พบกับ ศบ. ฉบับวันที่ 30 พฤษภาคม 2021

พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส

คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความยินดียิ่งในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้และเดินติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความชื่นชมยินดีในพระองค์ และมีความสุขแท้ในพระองค์


เรากำลังประกาศความรอดในพระองค์ ความรักในพระองค์แก่โลกนี้ เราทุกๆ คนต่างประสบกับอุปสรรคและปัญหาในชีวิตเหมือนๆ กันทั่วโลกโดยเฉพาะการระบาดของโครร้ายโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากมาย เราอาจจะกล่าวว่าเห็นหน้ากันหลัดๆ ไม่กี่วันก็ตายจากกันโดยไม่มีโอกาสสั่งลาเลยเนื่องจากเป็นโรคระบาดรุนแรง การจัดการงานศพก็รีบเร่งตามกฎหมายของบ้านเมืองของเรา


อย่างไรก็ตามในท่ามกลางปัญหาเราก็ยังมีองค์พระเยซูคริสต์เจ้าผู้ทรงพระชนม์เป็นอยู่ ทรงอยู่ด้วยกับเราเสมอไปและตลอดไป

“...เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย” ฮีบรู 13:5


เป็นถ้อยคำแห่งการหนุนใจเราได้เป็นอย่างดี ให้พวกเราเติบโตและเจริญขึ้นในพระองค์เสมอ

5เพราะเหตุนี้เอง ท่านจงอุตส่าห์จนสุดกำลังที่จะเอาคุณธรรมเพิ่มความเชื่อ เอาความรู้เพิ่มคุณธรรม

6เอาความเหนี่ยวรั้งตนเพิ่มความรู้ เอาขันตีเพิ่มความเหนี่ยวรั้งตน และเอาธรรมเพิ่มขันตี

7เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มธรรม และเอาความรักคนทั่วไปเพิ่มความรักฉันพี่น้อง

2 เปโตร 1:5-7


การเติบโตในองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นน้ำพระทัยของพระองค์และเป็นสิ่งที่คริสเตียนต้องใส่ใจแสวงหาอย่างเอาจริงและเอาใจใส่

โดยฤทธิ์เดชแห่งองค์พระวิญญาณบริสุธิ์ ชีวิตคริสเตียนจำเป็นต้องเจริญเติบโตเข้มแข็งมากยิ่งๆ ขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกๆ วันเรื่อยไปอย่างมีเป้าหมายคือ


(1) การที่จะมีชีวิตเหมือนกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้า สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน นบนอบในบุคลิกการดำเนินชีวิตทั้งภายในและภายนอกที่สำแดงออกมาจากชีวิตของเรา เปาโลจึงสอนเราดังนี้ว่า “20ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า” กาลาเทีย 2:20 การมีชีวิตเหมือนพระคริสต์เจ้าและอย่างพระคริสต์เจ้าคือเป้าหมายของชีวิตของเรา


(2) การเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในพระวจนะของพระองค์ในระดับลึกซึ้งซึมซาบและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แน่นอนเรามักจะคุ้นเคยกับพระวจนะในข้อนี้ดี 105พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่มรรคาของข้าพระองค์” สดุดี 119:105


(3) การมีชีวิตที่อดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก เรียนรู้ที่จะปรับตัวเองตามการทรงนำขององค์พระผู้เป็นเจ้า ยืดหยุ่น มองในด้านบวกและสร้างสรรค์ เห็นความทุกข์ยากลำบาก แม้แต่การข่มเหงต่างๆ เป็นอุปกรณ์ที่หล่อหลอมและเสริมสร้างชีวิตของเราได้ “6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์” ฟิลิปปี 4:6-7 นี่เป็นถ้อยคำของพระองค์ที่จะส่งเสริมให้เราเติบโตเข้มแข็งขึ้นในพระองค์ได้


(4) ความรักเป็นสิ่งที่พวกเราต้องพัฒนาเจริญขึ้นในพระองค์เสมอ รักองค์พระผู้เป็นเจ้า รักตนเอง รักเพื่อนบ้านเหมือนตนเอง ความรักแท้เป็นพลังผลักดันให้เรารับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างทุ่มเทและเอาใจใส่ยิ่ง สดุดี 116:1 กล่าวว่า “1ข้าพเจ้ารักพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและ คำวิงวอนของข้าพเจ้า” และพระวจนะได้สอนเราว่า “23ท่านบรรดาธรรมิกชนทั้งสิ้นของพระองค์เอ๋ย จงรักพระเจ้า พระเจ้าทรงพิทักษ์รักษาคนซื่อสัตย์ไว้ แต่ทรงสนองผู้กระทำอหังการอย่างเต็มขนาด” สดุดี 31:23 พระธรรมมาระโกจึงสอนเราอีกว่า “30และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน 31และธรรมบัญญัติที่สองนั้นคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติอื่นที่ใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งสองนี้ไม่มี” มาระโก 12:30-31 ความรักในพระองค์จะเป็นสะพานนำความรอดขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปสู่ผู้อื่นอย่างมากมาย

ขอให้พวกเราได้เติบโตขึ้นในหลากหลายด้าน ด้านการมีชีวิตที่เหมือนกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ด้านความรู้ความชำนาญในพระวจนะอย่างลึกซึ้งยอดเยี่ยม ด้านการอดทนต่อความทุกข์ยากลำบากมองเห็นเป็นอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาชีวิตของเราได้ และสิ่งสำคัญยิ่งคือ ความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าชนะและครอบครองในสรรพสิ่งทั้งปวง พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 8 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page