top of page

บทความจากศิษยาภิบาล

ในชีวิตของคนเราควรจะเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตใช้วันเวลาของเราที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างชาญฉลาดและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด ขอยกตัวอย่างสักสองเรื่อง กล่าวคือการพักผ่อนหลับนอนเรารู้หรือไม่ว่าร่างกายของคนเรามีระบบจัดการ ซ่อมแซมตนเองหากเพียงแต่เราพักผ่อนหลับนอนอย่างเพียงพอ ปกติคนเราต้องการเวลาเช่นนี้ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่วัน อาจจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล หากไม่เพียงพอเราจะรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลียและไม่สดชื่นในการชีวิต เรื่องต่อมาคือการกินดื่มอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหรือการโภชนาการอย่างดีพอเหมาะ เราคงไม่กินอาหารภายใน 5 นาที แล้วคาดหวังว่าจะครบถ้วนเพียงพอต้องใช้เวลาพอสมควรต่ออาหาร 1 มื้อเหล่านี้ เป็นต้น ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่ต้องรักษาความสัมพันธ์อันอบอุ่นและแนบแน่นในองค์พระผู้เป็นเจ้า เราจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตใช้วันเวลากับองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างถูกต้องเหมาะสมในแต่ละวันๆ เป็นอย่างดี เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ท่านทั้งหลายจงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจ จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์” ยากอบ 4:8

เป็นคำท้าชวนรวมทั้งหนุนใจให้เราใช้ชีวิตของเราใกล้ชิดกับพระองค์ เราจึงจะมีชีวิตแห่งความเข้มแข็งอันเต็มไปด้วยพลัง ความหวังแห่งชีวิตต่างๆ และพระธรรมอีกตอนหนึ่งเตือนเราว่า

ต่อจากนี้ข้าพเจ้าก็ได้แลเห็นพระวิหารของเต็นท์แห่งสักขีพยาน ในสวรรค์เปิดออก” วิวรณ์ 15:5 การใช้เวลากับพระองค์หมายถึงเราเชื่อฟังพระองค์และวางใจในพระองค์นั่นเอง
ใจแน่วแน่นั้น พระองค์ทรงรักษาไว้ในศานติภาพอันสมบูรณ์ เพราะเขาวางใจในพระองค์” อิสยาห์ 26:3

เมื่อเราใช้ชีวิตกับพระองค์อย่างถูกต้องเหมาะสมเพียงพอในแต่ละวันๆ เราจะได้พบกับอะไรบ้างซึ่งเราจะศึกษาพอสังเขปถึงสิ่งที่เราสามารถพบได้เมื่อเราอยู่ในพระองค์ดังนี้คือ

(1) เราจะพบกับพระคุณพระพรอันเปี่ยมล้นในพระองค์

ขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยว่าข้าพระองค์ยกความผิดของทุกคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น ขออย่าทรงนำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง” ลูกา 11:4

การได้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์เราจะได้เรียนรู้ชีวิตที่อยู่ห่างไกลจากความบาปผิดต่างๆ การมีชีวิตในทางบริสุทธิ์ การยกโทษความบาปผิดต่างๆ แก่ทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างใจกว้างขวาง การมีชีวิตเหนือการทดลองต่างๆ เป็นต้น ชีวิตจะเต็มล้นไปด้วยความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นแบบอย่าง เป็นต้นแบบให้เราเดินตามทางพระองค์

พระองค์ทรงรักความชอบธรรม และทรงเกลียดอธรรม ฉะนั้นพระเจ้า คือ พระเจ้าของพระองค์ได้ทรงเจิมพระองค์ไว้ ด้วยน้ำมันแห่งความยินดี ยิ่งกว่าพระสหายทั้งปวงของพระองค์” ฮีบรู 1:9

(2) เราจะพบกับความรักและความอบอุ่นในพระกายขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าคือในคริสตจักรของพระองค์

การเป็นสาวกแท้ต้องเรียนรู้ เตรียมชีวิตและมีประสบการณ์ตรงในชีวิตคริสเตียนในด้านต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงสอนเราผ่านโรงเรียน เตรียมชีวิตองเราซึ่งก็คือ คริสตจักรของพระองค์นั่นเอง

22พระเจ้าได้ทรงปราบสิ่งสารพัดลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์ และได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นประมุขเหนือสิ่งสารพัดแห่งคริสตจักร 23ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ คือซึ่งเต็มบริบูรณ์ด้วยพระองค์ ผู้ทรงอยู่เต็มทุกอย่างทุกแห่งหน” เอเฟซัส 1:22-23

นี่เป็นเพียงพระวจนะตอนหนึ่งที่ส่งเสริมและหนุนใจให้เราใช้เวลากับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าผ่านทางคริสตจักรของพระองค์ เราสามารถเรียนรู้ทั้งสุขและทุกข์ต่างๆ อย่างรอบด้านในพระกายของพระองค์ได้เป็นอย่างดี เราจะได้เรียนรู้ชีวิตแห่งการเป็นสาวกแท้ของพระองค์ และอื่นๆ อีกมากมายหลายหลากมิติของชีวิตพร้อมกับโอกาสแห่งการเติบโตพัฒนาตนเองสู่ความไพบูลย์ในพระองค์เป็นที่ยิ่ง

(3) ชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืนในพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า

1เหตุฉะนั้นข้าพเจ้า ผู้ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับพันธกิจอันเนื่องจากการทรงเรียกท่านนั้น 2คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก 3จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ” เอเฟซัส 4:1-3

คือชีวิตที่ได้รักองค์พระผู้เป็นเจ้าสุดชีวิตสุดหัวใจสุดกำลัง รักตนเองและรักคนอื่นเสมอกับตนเอง ซึ่งเป็นหัวใจของคำสอนของพระองค์ ความรักของพระองค์เป็นอุปกรณ์ที่คนทั้งโลกจะรู้ว่าเราคือสาวกแท้ในพระองค์

ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา” ยอห์น 13:35

การได้อยู่ในพระองค์ นำชีวิตของเราสู่การเป็นผู้ที่ทรหดอดทนสูง ยินดีเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อคนที่เรารักและรักเรา คือองค์พระเยซูคริสต์เจ้า เรียนรู้ที่จะดูแลเอาใจใส่ตนเองทั้งทางกาย จิตใจ จิตวิญญาณ และนำผู้อื่นให้ได้เข้าใกล้และพบกับพระองค์เช่นเดียวกัน

คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและประสานกันโดยทุกๆข้อต่อที่ทรงประทาน ได้จำเริญเติบโตขึ้นด้วยความรัก เมื่ออวัยวะทุกอย่างทำงานตามความเหมาะสมแล้ว” เอเฟซัส 4:16

นี่เป็นพระวจนะตอนหนึ่งที่เร้าใจให้เราเจริญขึ้นในพระองค์ในทุกๆ วันเสมอไป

ขอให้เราทั้งหลายได้ใช้เวลาในชีวิตกับพระองค์อย่างถูกต้องเหมาะสมเพียงพอ แล้วเราจะได้พบกับพระพรอันมากมายหลายหลาก เช่น ความสันติสุข ชื่นชมยินดีในพระองค์ ชีวิตอันอบอุ่นในพระกายของพระคริสต์เจ้า และชีวิตที่เจริญเติบโตสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในพระองค์เสมอไป พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าเดือนแห่งรวีวารศึกษาครับผม

ดู 45 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page