top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 27 พฤศจิกายน 2022

ความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระคุณในพระองค์ พระพรอันมากล้นอยู่เหนือชีวิตของเราเสมอมามิได้ขาด เดือนแห่งการขอบพระคุณในพระองค์ได้สอนได้สร้าง ได้เปิดเผยถึงพลังอันมหัศจรรย์ของชีวิตแห่งคำสรรเสริญและขอบพระคุณในพระองค์

“ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามพระเจ้าด้วยบทเพลง ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์โดยโมทนาพระคุณ” สดุดี 69:30

เป็นประสบการ์จริงในชีวิตของกษัตริย์ดาวิด ไม่ว่ายามสุขสบายหรือยามทุกข์อย่างแสนสาหัสก็ตามพระองค์เต็มไปด้วยคำสรรเสริญและขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงแห่งคำสรรเสริญนมัสการหรือด้วยชีวิตก็ตาม

“จะมีเพลงโมทนาพระคุณออกมาจากที่เหล่านั้น และมีเสียงของผู้ที่รื่นเริง เราจะทวีเขาขึ้น และเขาจะไม่มีเพียงน้อยคน เราจะกระทำให้เขามีเกียรติ เขาจะไม่เป็นแต่ผู้เล็กน้อย” เยเรมีย์ 30:19

เยเรมีย์ก็มีประสบการณ์ถึงพลังแห่งคำสรรเสริญและขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน คนที่ชีวิตเปี่ยมไปด้วยคำขอบพระคุณเป็นผู้ที่ได้กลับใจเสียใหม่แล้ว มีชีวิตอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ เป็นคนชอบธรรมในพระองค์เป็นผู้ที่ได้บังเกิดใหม่แล้ว ชีวิตเช่นนี้จึงเป็นภาชนะอันดีในพระหัตถ์ของพระองค์ในการนำผู้คนให้ได้เข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณในพระองค์ คำขอบพระคุณ

(1) เปิดประตูไปสู่พระพรต่างๆ อย่างมากมาย

เป็นโอกาสในท่ามกลางอุปสรรคปัญหาต่างๆ มองโลกในแง่บวกและสร้างสรรค์ในพระองค์ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างเป็นไปได้ มองปัญหาที่เข้ามาในชีวิตเป็นอุปกรณ์ที่พระองค์ทรงใช้ในการพัฒนา และหล่อหลอมชีวิตของเรามากกว่าที่จะมองว่าเป็นการทำลายหากเราผ่านไปได้เราก็จะเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากยิ่งๆ ขึ้น เปาโลจึงกล่าวสอนเราว่า

“9แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั่น” เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงภูมิใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า 10เหตุฉะนั้นเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า ในการประทุษร้ายต่างๆในความยากลำบาก ในการถูกข่มเหง ในความอับจน เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น” 2 โครินธ์ 12:9-10

(2) เป็นการแสวงหาและให้พระองค์เป็นที่หนึ่งแห่งชีวิต

คำขอบพระคุณเป็นการตระหนักถึงและสำนึกถึงความยิ่งใหญ่และความงามขององค์พระผู้เป็นเจ้า

“เพราะถึงแม้ว่าเขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือหาได้ขอบพระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป” โรม 1:21

เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ซาบซึ้งในความรัก การจัดเตรียมสิ่งที่ดีสิ่งที่จำเป็นไม่เคยขาดไปจากชีวิตของเราได้เลย

“6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์” ฟิลิปปี 4:6-7

เมื่อเข้าใกล้ชิดกับพระองค์ พระพรและสันติสุขในพระองค์เกินกว่าจะคิดและเข้าใจได้จะมาอยู่เหนือชีวิตของเราอย่างแน่นอน

(3) เมื่อเราขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าชีวิตของเราเองก็จะได้รับการหล่อหลอมและพัฒนาตกแต่งให้ได้เจริญขึ้นในทางของพระองค์

“17จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” 1 เธสะโลนิกา 5:17-18

เป็นน้ำพระทัยของพระองค์ที่จะทรงให้คนของพระองค์ได้เติบโตขึ้นและนำพระพรในพระองค์ไปแจกจ่ายแก่ผู้อื่นอย่างมากมายด้วยใจกว้างขวาง เราคงจะคุ้นเคยกับพระวจนะในข้อนี้

“เพราะพระเจ้าประเสริฐ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ และความสัตย์สุจริตของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์” สดุดี 100:5

และ

“จงให้ทุกสิ่งที่หายใจ สรรเสริญพระเจ้า จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด” สดุดี 150:6

เราจะเติบใหญ่ในพระองค์โดยขาดจากชีวิตแห่งคำขอบพระคุณและสรรเสริญในพระองค์ไม่ได้

ผู้ที่ขอบพระคุณในพระองค์เสมอคือผู้ที่ใช้ชีวิตในความสว่าง เราจะเห็นได้จากชีวิตแห่งการขอบพระคุณในพระองค์เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยพลังฤทธานุภาพที่มาจากพระองค์ คำขอบพระคุณพังทลายอุปสรรคปัญหาต่างๆ ให้ราบเรียบเป็นหน้ากลองได้ คำขอบพระคุณยกพระองค์เป็นที่หนึ่งในชีวิตและนำชีวิตของเราให้ได้เติบโตเข้มแข็งก้าวหน้าขึ้นในพระองค์ คำขอบพระคุณของเราเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เป็นอย่างดี พบกันใหม่ในเดือนหน้าเดือนแห่งคริสตสมภพ 2022 ครับผม

ดู 18 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Commentaires


bottom of page