พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโสคริสตจักรขอนแก่น
คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดี
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอำนวยอวยพระพรมายังพี่น้องทุกๆ ท่านรวมทั้งพี่น้องที่มานมัสการกับทางคริสตจักรขอนแก่นเป็นครั้งแรกเช่นกันหากพระเป็นเจ้าทรงนำขอเชิญท่านมาร่วมรับพระพรด้วยกันอีกในโอกาสต่อๆ ไป สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแห่งการส่งเสริมชีวิตกับพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระวจนะมีคุณค่าและความสำคัญยิ่งต่อชีวิตคริสเตียนของเรา พระวจนะเป็นความจริงที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือสูญหายไปได้เลย
“8หญ้านั้นก็เหี่ยวแห้ง ดอกไม้นั้นก็ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้าของเรา จะยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์” อิสยาห์ 40:8
กาลเวลาสิ่งต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงแต่พระคำของพระองค์จะคงเดิมเสมอไป ไม่มีใครจะสามารถเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์สิ่งต่างๆ ในพระวจนะของพระองค์ได้เลยเว้นแต่พระองค์เองเท่านั้น
เราควรจะศึกษาและเข้าใจ เรียนรู้ เชื่อฟังและยำเกรงในพระองค์เสมอไป พระวจนะมีพระพรหลากหลายด้าน ในครั้งนี้จะพาพี่น้องศึกษาโดยสังเขปดังนี้
(1) พระวจนะผ่อนคลายภาระต่างๆ ในชีวิตมนุษย์
ปัญหา ความเจ็บปวดกาย ใจ และจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดี ชีวิตคนเราไม่ได้ราบรื่นสุขสบายเสมอไป พระวจนะสอนเราดังนี้
“28จิตใจของข้าพระองค์ละลายไปด้วยความโศก ขอทรงเสริมกำลังข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์” สดุดี 119:28
พระคำหนุนน้ำใจเสริมชีวิตให้เรามองโลกในแง่บวกและเรียนรู้ที่จะพักสงบในพระองค์ พระวจนะหนุนนำการผ่อนคลายในชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี เช่น “28บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข 29จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก” มัทธิว 11:28-29 การได้พักสงบในพระองค์นำพาชีวิตเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมายอย่างมากมาย
(2) พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะสอนเราในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า
และมีจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิตที่เด่นชัดไม่คลุมเครือใดๆ มีเส้นทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและเหมาะสมดี
แน่นอนเรามักคุ้นกับพระวจนะในข้อนี้
“105พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่มรรคาของข้าพระองค์” สดุดี 119:105
พระวจนะจะสอนเราในการคิด การตัดสินใจเลือกทางเดินที่ชาญฉลาด องค์พระเยซูคริสต์ก็ได้สอนเรื่องนี้เช่นกัน ทางกว้างและสะดวกสบายแต่ปลายทางคือความพินาศ ส่วนทางแคบอาจจะไม่สะดวกนักแต่จบลงด้วยดีก็ควรจะเลือกเอาที่จบลงด้วยดี คนฉลาดมีปฏิภาณไหวพริบ มองกาลไกลและหยั่งรู้เท่านั้นจึงจะเลือกทางเดินไปในทางแคบได้ “13“จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก 14เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย” มัทธิว 7:13-14 นี่เป็นตัวอย่างที่พระวจนะสอนให้เราคิดกว้างไกล คิดลึก คิดถึงผลต่างๆ ต่อชีวิตของเราอย่างรอบด้าน
(3) พระวจนะสร้างชีวิตที่ดีกว่าและหรือดีที่สุดก็ว่าได้
ชีวิตคนเราไม่ได้จบอยู่ที่ความตายเท่านั้นแต่ยังมีโลกหลังความตายอีก คือ สู่การพิพากษาชั่วนิรันดร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเยซูคริสต์คือทางแห่งความหวังและความรอดพ้นบาป เราคงยังจำได้ดี “23ท่านทั้งหลายได้บังเกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่จากพันธุ์มตะ แต่จากพันธุ์อมตะ คือด้วยพระวจนะของพระเจ้าอันทรงชีวิตและดำรงอยู่” 1 เปโตร 1:23 และ “16เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์” ยอห์น 3:16 เพียงแต่เราเชื่อฟังและเข้าใจในพระวจนะทำตามพระวจนะได้สอนเราเราก็จะได้รับความรอดพ้นบาปมีชีวิตนิรรันดร์ในพระองค์ เราจะกลับสู่การคืนดีกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และมีสิทธิเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ในบั้นปลายอย่างแน่นอนตามพระสัญญา “165บุคคลเหล่านั้นที่รักพระธรรม ของพระองค์ มีสันติภาพใหญ่ยิ่ง ไม่มีสิ่งใดกระทำให้เขาสะดุดได้” สดุดี 119:165 และ “27เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย มใสันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย” ยอห์น 14:27 เป็นความจริง
พระวจนะนำชีวิตสู่การผ่อนคลายจากภาระหนักหน่วงแห่งชีวิต พระวจนะแนะนำทางชีวิตที่มีความสุขในบั้นปลายแก่เรา และพระวจนะสร้างชีวิตเราในแง่ที่ดีและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอำนวยอวยพระพรมาเหนือพี่น้องในทุกๆ ท่านถ้วนหน้ากันและพบกันใหม่ในเดือนแห่งบุรุษปี 2021 ครับผม
Comments