ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พบกับศบ.
เปาโลได้สอนเราอย่างน่าคิดว่า
“13ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า 14ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ 15เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย 16แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป” ฟิลิปปี 3:13-16
นี่เป็นพระคำพระเป็นเจ้าตอนหนึ่งที่สอนให้เราสัตย์ซื่อในการดำเนินชีวิตของเราให้ได้เต็มไปด้วยพระคุณและพระพรในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างเหลือล้น และเรารู้หรือไม่ เราสังเกตุได้หรือไม่ อย่างไร ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ายังคงกระทำกิจและทรงนำพาชีวิตเราอยู่ อะไรเป็นเครื่องหมายหรือสิ่งบ่งบอกถึงสิ่งเหล่านั้นได้อยู่บ้าง
ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระองค์ตามพระคำของพระองค์แล้วจะมีสิ่งประจักษ์เกิดขึ้นในชีวิตอันเป็นผลของการได้ติดตามพระองค์ซึ่งในครั้งนี้จะกล่าวถึง 3 ด้าน หรือ 3 สิ่งโดยสังเขป คือ
(1) ผลของการดำเนินชีวิตตามความเชื่อในพระองค์
“แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์” ฮีบรู 11:6 ความเชื่อวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมส่งผลต่อชีวิตประจำวันในปัจจุบันของเรา บำเหน็จรางวัลแก่ทุกๆ คนที่ได้แสวงหาพระองค์ โนอาร์รอดจากน้ำท่วมโลก เป็นต้น แม้แต่อับราฮามตระกูลของท่านกลับกลายมาเป็นต้นตระกูลแห่งประเทศอิสราเอล เป็นต้น คนเหล่านี้เป็นเผ่าพันธุ์เชื้อสายของท่านผู้ที่ดำเนินตามความเชื่อต่อพระองค์เจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองในพระองค์ และเจริญเติบโตขึ้นในพระองค์อย่างแน่นอน สันติสุขในพระองค์เกินกว่าจะเข้าใจในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากต่างๆ เราสามารถพันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยพระหัตถ์ของพระองค์ทรงนำอย่างล้ำลึก พระวจนะตอนนี้อาจจะยกมายาวสักหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องจริงลองพิจารณาดูดีๆ “25ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือลูกหลานของเขาขอทาน 26เขาแจกจ่ายอย่างกว้างขวางและให้ยืมเสมอ และลูกหลานของเขาก็เป็นคำพร 27จงพรากเสียจากการชั่ว และกระทำความดี และท่านจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ 28เพราะพระเจ้าทรงรักความยุติธรรม พระองค์จะไม่ทอดทิ้งธรรมิกชนของพระองค์ จะทรงสงวนคนเหล่านั้นไว้เป็นนิตย์ แต่ลูกหลานของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย 29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก และอาศัยอยู่บนนั้นเป็นนิตย์” สดุดี 37:25-29
(2) พระลักษณะขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เริ่มส่งผลในการดำเนินชีวิตของเรา
กล่าวคือชีวิตของผู้เชื่อจะถูกสร้างและพัฒนาทั้งหมดอย่างบูรณาการ คือ ทางด้านกาย ใจ จิตวิญญาณ เราจะถูกสร้างให้เหมือนกับพระองค์ “เหตุฉะนั้นเมื่อท่านจะรับประทานจะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า” 1 โครินธ์ 10:31 และ “และเมื่อท่านจะกระทำสิ่งใดด้วยวาจาหรือด้วยกายก็ตาม จงกระทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูเจ้า และขอบพระคุณพระบิดาเจ้า โดยพระองค์นั้น” โคโลสี 3:17 นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น ผู้ที่รักองค์พระผู้เป็นเจ้า และผู้ที่พระองค์ทรงรักจะมีชีวิตที่ถูกพัฒนาเสริมสร้างให้ละม้ายคล้ายคลึงกับพระองค์ ดุจดังบุตร เรียนและเลียนแบบหลากหลายอย่างของชีวิตจากบุพการี ดังเราเคยกล่าวว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เราจะมีชีวิตในทางชอบธรรมของพระองค์ต่อมา สุภาพนบนอบ อ่อนน้อมตามแบบอย่างของพระองค์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ย่อมยืนยันได้ว่าฤทธานุภาพแห่งพระคำ ฤทธานุภาพขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังกระทำกิจในชีวิตของเราอยู่นั่นเอง
(3) เราจะมีเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตแบบใหม่ตามพระองค์
ซึ่งบางครั้งก็ดูเสมือนกับกำลังสวนกระแสกับของโลกนี้อย่างสิ้นเชิง “ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า” กาลาเทีย 2:20 คริสเตียนเป็นผู้ที่ถูกสร้างชีวิตออกมาจากภายในสู่ภายนอก แนวคิด วิถีชีวิต ค่านิยม ความประพฤติ ลักษณะนิสสัยใจคอจะถูกพัฒนาปรับเปลี่ยนไปตามพระวจนะของพระองค์ ท่าทีต่อสิ่งต่างๆ การมองโลกด้วยมุมมองอย่างที่พระวจนะสอนการบริหารจัดการชีวิต วัน และเวลาในการใช้ชีวิตในโลกนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง ความอดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก เมื่อต้องเผชิญกับศัตรู ฯลฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงตามอย่างที่พระวจนะได้ทรงสอน กำลังพลังที่จะเดินไปข้างหน้ามาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่สถิตอยู่ภายในชีวิตของผู้เชื่อ คนเหล่านี้ล้วนได้ค้นพบแก่นแท้และความจริงของชีวิต
เราคงจำพระวจนะตอนนี้ได้ดีอย่างขึ้นใจ “28เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ 29เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พระองค์ได้ทรงทราบอยู่แล้ว ผู้นั้นพระองค์ได้ทรงตั้งไว้ให้เป็นตามลักษณะพระฉาย แห่งพระบุตรของพระองค์ เพื่อพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพวกพี่น้องเป็นอันมาก 30และบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงตั้งไว้นั้น พระองค์ได้ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม และผู้ที่พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ก็ทรงโปรดให้มีศักดิ์ศรีด้วย” โรม 8:28-30 สิ่งเหล่านี้ย่อมยืนยันได้ว่า เรามีพระองค์ คือ องค์พระคริสต์เจ้าสถิตอยู่ในชีวิตของเรา และเรากำลังเติบโตขึ้นในความเชื่อในพระองค์ ชีวิตของเรากำลังมุ่งมั่นไปข้างหน้ากับพระองค์ในทุกๆ วัน และผู้คนเริ่มสัมผัสและสังเกตได้จากการใช้ชีวิตของเราแบบวันต่อวันในพระองค์ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม เดือนแห่งครอบครัว และการเสริมสร้างผู้นำคริสเตียน 2021
Comments