top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 26 มิถุนายน 2022

เป็นความจริงและเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องเป็นตรรกอย่างน่าคิดคือปลาขาดน้ำไม่ได้ฉันใดหากขาดก็จะตาย คริสเตียนคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ขาดพระคำของพระองค์ไม่ได้ฉันนั้น มีพระวจนะหลายตอนได้สอนเราไว้เช่น

“6เหตุฉะนั้นเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสตเจ้าแล้วฉันใด จงปฏิบัติพระองค์ด้วยฉันนั้น 7จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ และมั่นคงอยู่ในความเชื่อ ตามที่ท่านได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และจงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ” โคโลสี 2:6-7

อีกตอนหนึ่งคือ

“16ขอให้พระองค์ทรงโปรดประทานกำลังเรี่ยวแรงมากฝ่ายจิตใจแก่ท่าน โดยเดชพระวิญญาณของพระองค์ตามความไพบูลย์แห่งพระสิริของพระองค์ 17เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจของท่านทางความเชื่อ เพื่อว่าเมื่อท่านได้วางรากลงมั่นคงในความรักแล้ว 18ท่านก็จะได้มีความสามารถหยั่งรู้พร้อมกับธรรมิกชนทั้งหมด ถึงความกว้าง ความยาว ความสูง ความลึก 19คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม”เอเฟซัส 3:16-19

และยังมีอีกตอนหนึ่งก็หนุนใจเราว่า

“เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า ท่านจงตั้งมั่นอยู่ อย่าหวั่นไหว จงปฏิบัติงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า โดยองค์พระผู้เป็นเจ้า การของท่านจะไร้ประโยชน์ก็หามิได้” 1 โครินท์ 15:58

พระธรรมสามตอนนี้หยิบยกมาเป็นคำหนุนใจบ่งบอกถึงชีวิตคริสเตียนต้องติดสนิทพันผูกกับพระวจนะอย่างเข้มข้นอย่างเอาจริงเอาจังและเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ในการดำเนินชีวิตของเราในโลกนี้เราต้องเผชิญกับสิ่งที่ดีบ้าง สิ่งร้ายๆ บ้างและเราไม่อาจจะคาดการณ์ได้ว่าอุปสรรคปัญหาต่างๆ จะเกิดกับเราเมื่อใดบ้าง ในกาลโอกาสที่แตกต่างกันไปและไม่อาจคาดเดาอย่างคิดไม่ถึงแม้หากเราพบพานก็จะสามารถเอาชนะการล่อลวงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี องค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้สอนเราให้คิดดังนี้

“47ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด 48เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง 49ส่วนคนที่ได้ยินและมิได้กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่งตึกนั้น ตึกนั้นก็พังทลายลงทันที และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก” ลูกา 6:47-47

ชีวิตคนเราเปรียบเสมือนบ้านเรือนหรือตึกหากมีการวางฐานรากที่ดีและมั่นคงก็จะสามารถยืนหยัดเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจจะถาโถมเข้ามาโดยไม่รู้ตัวได้นั่นเอง ฐานรากที่มั่นคงคือพระวจนะและองค์พระคริสต์เจ้านั่นเอง พระคำเป็นความจริงที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้เลย

“ข้าแต่พระเจ้า พระวจนะของพระองค์ ปักแน่นอยู่ในสวรรค์เป็นนิตย์” สดุดี 119:89

การเดินตามความจริงในพระวจนะยากที่จะโดนหลอกลวงได้ ชีวิตของเราก็จะเกิดผลอันดีในพระองค์อย่างแน่นอน มีหลากหลายช่องท่างที่จะนำพาชีวิตคริสเตียนของเราไปสู่การเจริญขึ้นในพระคำ เราต้องเรียนรู้และพัฒนาชีวิตเราอยู่เสมอ พระคำจะให้ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ประเมินค่า แยกแยะสิ่งต่างๆ บาป พระพรออกจากกันได้ พระคำจะส่งเสริมชีวิตเราให้ได้พัฒนาทักษะในการอธิษฐาน การนมัสการ การรับใช้ การมีชีวิตที่เป็นเกลือและความสว่างแก่โลกนี้ พระคำจะนำชีวิตเราไปสู่ความสุข สันติสุขในพระเป็นเจ้า จิตใจงดงาม อารมณ์แจ่มใสชื่นบานในพระองค์เสมอ สร้างค่านิยมตามพระวจนะและสร้างชีวิตเราให้เป็นคนถ่อม สุขุม สงบ ชีวิตที่มีระบบระเบียบวินัยแห่งพระพรอันดี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนเราผ่านพระคำ ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกนี้ ผ่านทางธรรมชาติและอื่นๆ อีกมากมายสุดจะพรรณาให้ครบได้ เราต้อง

(ก) อุทิศถวายตนแด่พระองค์

ดังพระวจนะได้เตือนสติเราคือ

“1พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย 2อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม” โรม 12:1-2

(ข) ภาวนาพระคำ

เอาใจใส่ในพระคำอย่างสม่ำเสมออย่าได้เว้น

“แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน” สดุดี 1:2

(ค) ใช้เวลาในการอธิษฐานและนมัสการ

พัฒนาชีวิตในด้านนี้อย่างสม่ำเสมอ

“24และขอให้เราพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไร จึงจะปลุกใจซึ่งกันและกันให้มีความรักและทำความดี 25อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว” ฮีบรู 10:24-25

(ง) สามัคคีธรรมกับพี่น้องคริสเตียน

คนอื่นๆ ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณจะส่งเสริและพัฒนาชีวิตคริสเตียนของเราให้ได้ถ้าวหน้าขึ้นได้ อยู่ในพระกายร่วมกันรับใช้กับผู้นำในคริสตจักรของพระองค์

“12เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น 13จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์” เอเฟซัส 4:12-13

(จ) อย่าหยุดการเรียนรู้ในพระคำของพระองค์

ยังมีอีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจและนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ ถ่อมใจเรียนรู้เสมอตลอดชีวิตของเรานั่นเอง

“5ในทำนองเดียวกันท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงเชื่อฟังคำของพวกผู้ใหญ่ อันที่จริงให้ท่านทุกคนมีความถ่อมใจในการปฏิบัติต่อกันและกัน ด้วยว่าพระเจ้าทรงเป็นปฏิปักษ์กับคนเหล่านั้นที่ถือตัวจองหอง แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน 6เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร” 1 เปโตร 5:5-6

และอื่นๆ อีกมากมาย พระวจนะคือสิ่งที่ต้องอยู่ควบคู่กับชีวิตคริสเตียนเราตลอดไป

ขอให้พวกเราใส่ใจศึกษาเรียนรู้ให้ยิ่งๆ ขึ้นตลอดชีวิตของพวกเราที่ยังอยู่บนโลกใบนี้ พบกันใหม่ในเดือนแห่งบุรุษครับผม

ดู 69 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page