ตลอดทั้งเดือนเราได้ทบทวนและได้เรียนรู้เรื่องความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างมากมาย ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นการดีที่เราจะมาทบทวนถึงการที่จะรักษาชีวิตแห่งการอบอวนไปด้วยความรัก ผลหรือพระพรอันมากล้นในพระองค์สุดจะเข้าใจได้อย่างครบถ้วนได้ ความรักของพระองค์มีผลต่อชีวิตเราในทุกๆ มิติของชีวิต ในกระเป๋าเงินเรามีเงินอยู่เท่าใดเราพอจะคาดเดาและนับได้ แต่เราไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าเราแต่ละคนยังมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีกกี่วัน นี่ก็เป็นสิ่งที่เตือนเราว่าเราไม่อาจคำนวนคาดคะเนว่าความรักของพระองค์เป็นฉันใดได้อย่างถูกต้อง พระวจนะตอนหนึ่งได้สอนเราดังนี้
“9พระบิดาทรงรักเราฉันใด เราก็รักท่านทั้งหลายฉันนั้น จงยึดมั่นอยู่ในความรักของเรา 10ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามบัญญัติของเรา ท่านก็จะยึดมั่นอยู่ในความรักของเรา เหมือนดังที่เราประพฤติตามพระบัญญัติของพระบิดา และยึดมั่นอยู่ในความรักของพระองค์ 11นี่คือสิ่งที่เราได้บอกแก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราดำรงอยู่ในท่าน และให้ความยินดีของท่านเต็มเปี่ยม 12“พระบัญญัติของเรา คือให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เราได้รักท่าน 13ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน 14ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามที่เราสั่งท่าน ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเรา 15เราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำอะไร แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา เราได้สำแดงแก่ท่านแล้ว 16ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านไปเกิดผล และเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะได้ประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน 17สิ่งที่เราสั่งท่านทั้งหลายไว้ก็คือ ท่านจงรักกันและกัน” ยอห์น 15:9-17
พระวจนะตอนนี้ได้สอนเราถึงชีวิตที่สามารถอบอุ่นอยู่ในความรักของพระองค์ชั่วนิรันดร์กาลดังนี้โดยสังเขปคือ
(1) มีชีวิตที่รักองค์พระเยซูคริสต์เจ้า
ชีวิตเช่นนี้จะมีใจปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดแทบพระบาทของพระองค์เสมอๆ ในการอธิษฐาน ในการนมัสการ ในการศึกษาพระวจนะ ในการรับใช้ประกาศพระนามของพระองค์แก่โลกนี้ การเชื่อฟังเป็นหัวใจของความรักที่เรามีต่อพระองค์ คนที่รักพระองค์ก็จะรักตนเองอย่างดูแลเอาใจใส่ และรักผู้อื่นเหมือนรักตนเองเช่นกัน ความรักในหมู่มวลเหล่าคนของพระองค์จึงเป็นเสมือนเกลือและความสว่างที่หล่อเลี้ยงสังคมโลกนี้ให้อบอุ่นละน่าชื่นชมอย่างมีความสุข
(2) ความรักในพระองค์เป็นพลังผลักดันนำพาชีวิตของเราให้ได้เติบโตขึ้นในพระองค์
รับการเสริมสร้างพัฒนา เปลี่ยนแปลงใหม่ เรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนวันที่เราจะต้องจากโลกนี้ไปอยู่กับพระองค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้พระคำ มีประสบการณ์ใหม่ๆ กับพระองค์ไม่ว่ายามสุขหรือยามมีความทุกข์ก็ตาม รับการเติมสิ่งใหม่เข้ามาในชีวิตพร้อมกับยินดีที่จะยอมรับการเอาสิ่งต่างๆ ออกจากชีวิตได้เช่นกัน เพื่อการเติบโตขึ้นในพระองค์อย่างสูงสุด
(3) เป็นผู้ที่สร้างชีวิตให้แข็งแกร่งอย่างมีวินัยของชีวิต
รักแท้จะสร้างวินัยของชีวิตในทุกๆ ด้านในแต่ละวันเขาจะดำเนินชีวิตอย่างมีมาตรฐาน มีระบบระเบียบ การจัดการชีวิตในทุกๆ ด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านจิตวิญญาณ หากเปรียบเสมือนบ้านก็จะเป็นบ้านที่น่าอยู่ร่มรื่น สะอาดสะอ้านน่าดูชม ตกแต่งสีสันประดับประดาด้วยต้นไม้ดอกไม้งามตาม ปลอดภัยและมีของใช้ อาหารการกินอย่างอุดมสมบูรณ์ มีการปกครองดูแลครอบครัวที่อบอุ่น ศัตรูยำเกรงในผู้ครอบครองบ้านหลังนั้น อาจจะกล่าวได้ว่ากินอิ่มบริบูรณ์ นอนหลับอย่างสุขสบาย มีการบำรุงรักษาดูแลอย่างดี
นี่เป็นคำหนุนน้ำใจจากพระคำที่จะส่งเสริมชีวิตคริสเตียนให้ดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ได้เป็นอย่างดีโดยมีใจปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ และพร้อมเสมอในการพัฒนาและเติบโตขึ้นในพระองค์ และฝึกฝนชีวิตคริสเตียนที่แข็งแกร่งโดยการพัฒนาวินัยของชีวิตอย่างดี จัดการชีวิตที่เป็นเสมือนบ้านของพระคริสต์เจ้า ขอความรักของพระองค์ดำรงอยู่กับพวกเราเสมอไป และตลอดไป พบกันใหม่ในเดือนหน้า เดือนแห่งหนุ่มสาวและเยาวชนคริสตจักรขอนแก่นปี 2023 ครับผม
“เพราะว่าฟ้าสวรรค์สูงเหนือแผ่นดินเท่าใด ความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อบรรดาคนที่ เกรงกลัวพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งเท่านั้น” สดุดี 103:11