top of page

พบกับ ศบ. ฉบับวันที่ 22 สิงหาคม 2021

พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโสคริสตจักรขอนแก่น

เป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยพระพรและสันติสุขในชีวิตยิ่งที่ได้เข้าเฝ้านมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตามในทุกๆ ที่ที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วยเต็มไปด้วยชีวิตที่เกิดผลและเป็นพระพรอย่างมากมายในพระธรรม

โอ อยากให้มีจิตใจเช่นนี้อยู่เสมอไปหนอ คือที่จะยำเกรงเราและรักษาบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เขาทั้งหลายก็จะสุขเจริญอยู่ตลอดชั่วลูกหลานของเขาเป็นนิตย์” เฉลยธรรมบัญญัติ 5:29

ได้หนุนใจให้เรารักษาชีวิตของเราให้ได้อยู่ในพระวจนะของพระองค์ ชีวิตเช่นนี้จะเต็มไปด้วยพระพรและนำพระพรของพระองค์ให้ได้ไหลล้นไปสู่ตระกูลลูกหลานของเราในรุ่นต่อๆ ไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้ พระคุณและความรักอันเปี่ยมล้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยสุดสิ้นหรือหมดไปได้เลย ในสัปดาห์นี้เราจะลองมาศึกษาหรือสำรวจดูกันว่าเมื่อเราได้ตามติดองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยหัวใจ ด้วยสิ้นสุดใจ สุดชีวิตของเราแล้วมีพระพรหรือสิ่งดีๆ ใดบ้างได้เกิดขึ้นกับชีวิตของผู้เชื่อหรือสาวกผู้ที่ติดตามพระองค์บ้าง แน่นอนหากเรากล่าวจนครบถ้วนก็จะเยอะหรือมากมายหลายหลากต้องใช้เวลาใช้พื้นที่ ครั้งนี้ก็ไม่อาจจะทำได้ครบเลย เราจะศึกษาเพียงพอแค่สังเขปหรือเป็นเครื่องเตือนใจให้เราใส่ใจในชีวิตในการติดตามพระองค์ด้วยความยำเกรงก็เป็นพอคือ


(1) สถานภาพของชีวิตได้รับวิถีชีวิตแบบใหม่ของการเป็นคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระองค์เสมอๆ ไป

การได้เป็นบุตรของพระองค์ ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเราได้รับการปกป้องคุ้มครองเสมือนเรามีภูมิคุ้มกันจากไวรัสโควิด-19 และเชื้อโรคร้ายทำอันตรายรุนแรงถึงแก่ชีวิตเราไม่ได้

ผู้ที่กระทำตามพระบัญชาจะไม่ประสบอันตราย และจิตใจของคนที่มีสติปัญญาก็เข้าใจวาระและวิธีการ ปัญญาจารย์ 8:5

ผู้ดำเนินชีวิตในทางของพระองค์จะมีความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ต่อทุกๆ ด้านของชีวิต ทางร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนแล้วนั่นเอง เช่น ชาวอิสราเอลในสมัยของเนหะมีย์ก็ได้บันทึกเอาไว้ถึงความสุข ความชื่นชมยินดีสมกับการเป็นชนชาติของพระองค์ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้สำหรับชนชาติของพระองค์เหล่าเชลยได้กลับบ้านอย่างอัศจรรย์ เมื่อเขาดำเนินชีวิตกลับใจตามที่พระวจนะได้สอนเอาไว้แล้ว “17และชุมนุมชนทั้งปวง ผู้ได้กลับมาจากการเป็นเชลยได้ทำเพิงและพักอยู่ในเพิง เขามีความเปรมปรีดิ์ยิ่งนัก เพราะตั้งแต่สมัยของเยชูอาบุตรนูน ถึงวันนั้นประชาชนอิสราเอลไม่ได้กระทำเลย 18และทุกวันท่านอ่านธรรมบัญญัติของพระเจ้า ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เขาถือเทศกาลเลี้ยงอยู่เจ็ดวัน และในวันที่แปดมีการชุมนุมตามพิธีตามกฎหมาย” เนหะมีย์ 8:17-18 นี่เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยที่พระวจนะได้บันทึกเอาไว้เท่านั้นเอง


(2) ชีวิตอันยืนยาวอันเต็มไปด้วยสันติสุขในองค์พระผู้เจ้า

ชีวิตยืนยาวทั้งในโลกนี้และโลกหน้าที่แผ่นดินสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตเต็มไปด้วยสันติสุขไม่ได้หมายถึงว่าผู้ที่ติดตามพระองค์ไม่ประสบปัญหาหรือความทุกข์ยากเลยในชีวิตก็หาไม่ แต่หมายถึงชีวิตของคนของพระองค์หากประสบความทุกข์หรือภัยพิบัติต่างๆ เขาก็สามารถมีความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เสมอๆ


บุคคลเหล่านั้นที่รักพระธรรม ของพระองค์ มีสันติภาพใหญ่ยิ่ง ไม่มีสิ่งใดกระทำให้เขาสะดุดได้” สดุดี 119:165 และ


4จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด 5จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว 6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

ฟิลิปปี 4:4-7


ทั้งนี้พระองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตอยู่ด้วยเสมอๆ และตลอดไปนั่นเอง ชีวิตนิรันดร์ เป็นของผู้ที่วางใจในพระองค์ เหล่านี้ล้วนเป็นพระพรแก่ผู้ที่ได้ดำเนินชีวิตในพระองค์อย่างสุดใจสุดชีวิตนั่นเอง คริสตจักรในยุคแรกๆ ก็มีพระพรเช่นนี้โดยได้บันทึกว่า


46เขาได้ร่วมใจกันไปในพระวิหาร และหักขนมปังตามบ้านของเขา ร่วมรับประทานอาหารด้วยความชื่นชมยินดีและใจกว้างขวาง ทุกวันเรื่อยไป 47ทั้งได้สรรเสริญพระเจ้าและคนทั้งปวงก็ชอบใจ ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดให้คนทั้งหลายซึ่งกำลังจะรอด มาเข้ากับพวกสาวกทุกวันๆ” กิจการ 2:46-47 นี่เป็นเพียงพระพรส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง


(3) บำเหน็จอันใหญ่ยิ่งในพระองค์สุดจะบรรยายและเกินที่จะคาดคิดในชีวิตของเราได้

9ความยำเกรงพระเจ้านั้นสะอาดหมดจด ถาวรเป็นนิตย์ กฎหมายของพระเจ้าก็สัตย์จริง และชอบธรรมทั้งสิ้น 10น่าปรารถนามากกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองนพคุณมากนัก หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง ที่หยดลงจากรวง 11อนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นที่ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์ การที่จะรักษาข้อความเหล่านั้นก็ได้บำเหน็จอันใหญ่ยิ่ง” สดุดี 19:9-11 และในพระธรรมโยชูวา 24:14-15 ได้สอนเราว่า


14เหตุฉะนั้น จงยำเกรงพระเจ้าและปรนนิบัติพระองค์ด้วยความจริงใจ และด้วยความซื่อสัตย์ จงทิ้งพระเหล่านั้นซึ่งบรรพบุรุษของ ท่านได้เคยปรนนิบัติที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำและในอียิปต์เสีย และท่านทั้งหลายจงปรนนิบัติพระเจ้า 15และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ใน ท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า” เพราะโยชูวาและครอบครัวของท่านได้สัตย์ซื่อในการปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า มงกุฎแห่งชีวิตและอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างหนึ่งที่อดจะกล่าวถึงไม่ได้คือพระพรแห่งความรักอันวิเศษและหอมหวานในพระองค์

เราสามารถรักทุกๆ คนตามอย่างองค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้อย่างไม่ยากเย็นเลย ด้วยพลังที่มาจากพระองค์


แต่จงรักศัตรูของท่านทั้งหลาย และทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืนอีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมีบริบูรณ์ และท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด เพราะว่าพระองค์ยังทรงโปรดแก่คนอกตัญญูและคนชั่ว” ลูกา 6:35 สอนเราไว้ “29พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดได้สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูก หรือไร่นา เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐของเรา 30ในยุคนี้ ผู้นั้นจะได้รับตอบแทนร้อยเท่าคือ บ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา ลูกและไร่นา ทั้งจะถูกการข่มเหงด้วยและในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์ 31แต่มีหลายคนที่เป็นคนต้นจะต้องกลับไปเป็นคนสุดท้าย และที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนต้น”” มาระโก 10:29-31 รักษาสิ่งดีๆ นี้ไว้ในชีวิตของพวกเราสืบๆ ไป และเสมอไปครับผม สัปดาห์นี้พบกันแค่นี้ก่อนนะครับ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 13 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page