top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2021

หัวใจแห่งการสำนึกในพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นพระประสงค์และน้ำพระทัยของพระองค์ต่อชีวิตของประชากรของพระองค์เป็นที่ยิ่ง ในพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไขและพระคุณ พระพรอันมากล้นมีในพระองค์

จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” 1 พงศาวดาร 16:34

ก็ได้หนุนใจให้พวกเราขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์เสมอไป และในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ก็ได้สอนเราว่า

18และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ 19จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญ คือร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจของท่าน ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า 20จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา” เอเฟซัส 5:18-20

การนมัสการ การสรรเสริญ การขอบพระคุณเป็นวิถีชีวิตของคนของพระองค์ คำขอบพระคุณเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นการรับใช้พระองค์ด้วยชีวิตของเราไม่ว่าในยามสุขหรือยากทุกข์ก็ตาม

17แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง 18ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า” ฮาบากุก 3:17-18

การได้สรรเสริญขอบพระคุณในพระองค์นำมาซึ่งความสุข ความชื่นชมยินดีในพระองค์ การขอบพระคุณพระองค์เสริมสร้างชีวิตคริสเตียนให้แข็งแกร่งในพระองค์ มองโลก มองสถานการณ์ต่างๆ ด้วยมุมมองอย่างที่พระองค์ทรงประสงค์แก่ชีวิตของเรา ในพระธรรม “10ฝ่ายพระองค์ผู้ประทานพืชแก่คนที่หว่าน และประทานอาหารแก่คนที่กิน จะทรงโปรดให้พืชของท่านที่หว่านแล้วนั้นทวีขึ้นเป็นอันมาก และจะทรงให้ผลแห่งความชอบธรรมของท่านเจริญยิ่งขึ้น 11โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมีสิ่งสารพัดมั่งคั่งบริบูรณ์ขึ้น เพื่อให้ท่านมีแจกจ่ายอย่างใจกว้างขวาง ซึ่งโดยเราจัดแจก จะให้เกิดการขอบพระคุณพระเจ้า 12เพราะว่าการรับใช้ในการปรนนิบัตินั้น มิใช่จะช่วยธรรมิกชนซึ่งขัดสนเท่านั้น แต่ยังเป็นเหตุให้มีการขอบพระคุณพระเจ้าเป็นอันมากด้วย 13และเนื่องจากผลแห่งการปฏิบัตินั้น เขาจึงสรรเสริญพระเจ้า โดยเหตุที่ท่านทั้งหลายยอมฟัง และตั้งใจอยู่ในอำนาจข่าวประเสริฐของพระคริสต์ และเพราะเหตุท่านได้แจกจ่ายแก่เขา และแก่คนทั้งปวงด้วยใจกว้างขวาง 14เขาก็จะวิงวอนขอพระพรให้แก่ท่านทั้งหลายและอาลัยท่านเป็นอันมาก เพราะเหตุพระคุณของพระเจ้าซึ่งสถิตอยู่ในท่านอย่างเหลือล้น 15จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้” 2 โครินธ์ 9:10-15 เป็นประสบการณ์จริงและประสบการณ์ตรงจากชีวิตองท่านเปาโลที่ได้ประจักษ์และได้กลั่นกรองออกมาเป็นคำสรรเสริญและนมัสการในพระองค์ มีหลากหลายสิ่งที่เร้าใจและนำชีวิตของเราไปสู่ชีวิตแห่งการขอบพระคุณและนมัสการในพระองค์ ซึ่งจะกล่าวโดยสังเขปคือ


(1) ในพระองค์เปี่ยมไปด้วยความรัก

พระองค์เองทรงเป็นความรัก (1 ยอห์น 4:8) พระองค์เป็นพระบิดานิรันดร์ เป็นผู้ที่ฟูมฟักและบำรุงเลี้ยงชีวิตของเราเป็นอย่างดี คำขอบพระคุณจึงเหมาะสมและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด “จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” สดุดี 106:1

(2) ในพระองค์เราได้รับการชำระให้สะอาด

พ้นจากคำแช่งสาปและมีชีวิตใหม่ในพระองค์และเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ “2จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์ 3ผู้ทรงอภัยความบาปผิดทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน” สดุดี 103:2-3 นี่เป็นพระวจนะตอนหนึ่งที่สอนเราในเรื่องนี้เป็นอย่างดี อิสยาห์ท่านก็ประจักษ์เช่นกันท่านได้สอนเราว่า “พระเจ้าตรัสว่า มาเถิด ให้เราสู้ความกัน ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม ก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ”อิสยาห์ 2:18 ขอบพระคุณในพระเมตตาคุณและทรงหันหลังให้กับความบาปผิดของเราสร้างและตกแต่งชีวิตของเราให้ได้เป็นภาชนะอันอยู่ในพระหัตถ์พร้อมที่จะนำมาใช้การได้ในพันธกิจต่างๆ

(3) ในพระองค์มีถ้อยคำแห่งชีวิต

พระคำนำชีวิตและสร้างทั้งเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราจากภายในออกมาสู่ภายนอกได้ พระคำเป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตในโลกนี้อย่างชาญฉลาด เปาโลเตือนสติเราดังนี้ “จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า” โคโลสี 3:16 พระคำจึงเป็นเสมือนอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ บำรุงชีวิตของเราให้มีกำลังและมีสันติสุขในพระองค์ “ข้าพระองค์เป็นเพื่อนกับทุกคนผู้ยำเกรงพระองค์ กับผู้ที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์” สดุดี 119:63 การเชื่อฟังในพระวจนะ นำมาซึ่งชีวิตที่ดีและเกิดผลถวายพระเกียรติแด่พระองค์ และสอน เปิดเผยแผนการในอนาคตต่างๆ แก่พวกเราและแก่โลกนี้ “แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงนำเราเสมอมาโดยพระคริสต์ด้วยความมีชัย และทรงโปรดประทานกลิ่นหอมแห่งความรู้ของพระองค์ ให้ปรากฏด้วยตัวเราทุกแห่ง” 2 โครินธ์ 2:14

(4) ในพระองค์มีคริสตจักร มีคนของพระองค์อย่างเป็นรูปธรรม

เรามีพี่น้องในพระคริสต์เจ้าที่สามารถร่วมสุขร่วมทุกข์เราได้เป็นอย่างดี ผู้ที่จะมีส่วนหนุนชีวิตฝ่ายความเชื่อและความรักในพระองค์ให้เจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ชีวิตองฟิเลโมนก็เป็นประจักษ์ในด้านนี้ ซึ่งเปาโลก็ได้เห็นและให้การรับรอง เขาเติบโตได้เพราะมีคนของพระองค์ หรือคริสตจักรอยู่เบื้องหลังชีวิตนั่นเอง “ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าเสมอ คือระลึกถึงท่านเมื่ออธิษฐาน” ฟิเลโมน 1:4

ขอบพระคุณสำหรับคริสตจักรและคนของพระองค์ที่ทรงสร้าง สอน พัฒนาชีวิตของเราผ่านพระกายของพระองค์บนโลกนี้ ขอบพระคุณสำหรับความรักแท้ ขอบพระคุณสำหรับชีวิตใหม่ที่ได้รับการชำระบาปแล้ว ขอบพระคุณสำหรับพระวจนะที่สอนและนำชีวิตเราไปสู่สิ่งที่ดีงามเสมอและขอบพระคุณสำหรับคริสตจักรของพระองค์ที่อยู่เคียงข้างเราเสมอไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ในโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันนี้ ขอพระเป็นเจ้าทรงอำนวยอวยพระพรมายังพี่น้องทุกๆ ท่านและพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 55 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page