ยินดีต้อนรับพี่น้องสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยบรรยากาศของการนมัสการด้วยคำสรรเสริญและขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นอย่างยิ่ง หรือเป็นอย่างสูงยิ่งแห่งชีวิตของเรา เราคงคุ้นเคยกับพระวจนะตอนนี้สำหรับคริสเตียนทุกๆ คนเป็นอย่างดี
“16จงชื่นบานอยู่เสมอ 17จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” 1 เธสะโลนิกา 5:16-18
แท้จริงแล้วคำขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว
(ก) คือคำยกยอพระนามของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
พระองค์ทรงสอนให้เรามองโลกในแง่ดีหรือด้านบวกโดยมีพระองค์ทรงอยู่ด้วยหรือเคียงข้างเราเสมอๆ คำขอบพระคุณจึงมาแทนที่คำบ่นและคำต่อว่าต่างๆ นั่นเอง
(ข) คำขอบพระคุณแท้จริงเป็นคำสอนของพระองค์ที่เตือนสติเราเสมอๆ
ในการดำเนินชีวิตให้ได้อยู่ในพระคำอันอบอุ่นและเต็มไปด้วยพระพรแห่งพันธสัญญาอันมากมาย ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ดีหรือร้ายก็ตามเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาติให้มาถึงชีวิตของเรา พระคุณและความรักของพระองค์ไม่เคยขาดไปจากชีวิตของเราเลย
(ค) คำขอบพระคุณนำเราเข้าถึงแหล่งแห่งพระพรหรือต้นตอแห่งความรัก พระคุณ พระพรเสมือนบ่อน้ำแห่งชีวิตที่ไม่มีวันเหือดแห้งและหรือหมดสิ้นไปได้เลย พระองค์ทรงพระชนม์เป็นอยู่ เป็นผู้ทรงสร้างเต็มเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาคุณเป็นล้นพ้นยิ่ง
เมื่อเราขอบพระคุณในพระองค์จึงนำชีวิตของเราไปสู่พระพรและมิติต่างๆ อย่างมากมาย
(1) พระองค์ทรงโปรดปรานและนำพาชีวิตของเราสู่การเจริญเติบโตและก้าวหน้า
ยิ่งๆ ขึ้นในพระองค์เสมอๆ
“จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” สดุดี 107:1
พระพรในพระองค์มีมากมาย เช่นการหลุดพ้นจากความบาปผิดการถูกพิพากษาถูกผลักทิ้งที่บึงไฟนรก การมีชีวิตนิรันดร์ การได้เป็นเหล่าบุตรของพระองค์ สิ่งดีใดๆ สิ่งที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตไม่เคยขาดไปจากคนของพระองค์ ฯลฯ เพียงแค่เราเชื่อวางใจในพระองค์ พระพรอันมากล้นก็นับไม่ถ้วนแล้ว
(2) คำขอบพระคุณคือการรับใช้พระองค์อย่างหนึ่ง
ประกาศพระสิริและความใหญ่ยิ่งของพระองค์แก่โลกนี้ เป็นการแบ่งปันพระพร ความรัก ความรอดและเป็นการนำผู้คนมากมายให้ได้มาพบกับพระองค์ในที่สุด
“2จงปรนนิบัติพระเจ้า ด้วยความยินดี จงเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยการร้องเพลง 3จงรู้เถิดว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย และเราก็เป็นของพระองค์เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์ 4จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการโมทนา และเข้าบริเวณพระนิเวศของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ จงถวายโมทนาขอบพระคุณพระองค์ จงถวายสาธุการแด่พระนามของพระองค์” สดุดี 100:2-4
ตัวผู้ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์เป็นอุปกรณ์หรือเป็นประจักษ์พยานในการนำพาผู้คนให้ได้ตัดสินใจในการเดินในทางของพระองค์ได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นพระกิตติคุณที่เป็นจริง เป็นผู้แทนของพระองค์ในโลกนี้อย่างเป็นประจักษ์และยืนยันได้ถึงการมีอยู่จริง การเป็นจริงของพระคำพระองค์แก่โลกนี้
(3) คำขอบพระคุณในพระองค์จะปลุกเร้าผู้อื่นให้ร้อนรนในการเดินในทางของพระองค์
ปลุกทั้งตนเองและผู้อื่นในการที่จะเข้าใกล้ชิดกับพระองค์ให้มากๆ ยิ่งขึ้นไปอีก มีพระคำสอนเราว่า
“และขอให้เราพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไร จึงจะปลุกใจซึ่งกันและกันให้มีความรักและทำความดี” ฮีบรู 10:24
คำขอบพระคุณยังก่อให้เกิดผลดีต่อทั้งผู้อื่นและตนเองเป็นคำเสริมสร้าง คำนหนุนใจ นิมิตความหวังใจ และอื่นๆ อีกมากมาย คำขอบพระคุณย่อมประกาศและสำแดงถึงการได้อยู่ในการทรงสถิตอยู่ด้วยขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า การได้อยู่ในการทรงสถิตเช่นนี้นำมาซึ่งความสุข ความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่ยิ่ง ซึ่งองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงมีประสบการณ์ผ่านมาอันเป็นประจักษ์แล้ว
“20แต่ว่าอย่าเปรมปรีดิ์ในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของพวกท่าน แต่จงเปรมปรีดิ์ เพราะชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์” 21ในโมงนั้นเอง พระเยซูทรงมีความเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา ผู้เป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากผู้มีปัญญาและผู้ฉลาด แต่ได้ทรงสำแดงให้ผู้น้อยรู้ ข้าแต่พระบิดา พระองค์ทรงเห็นชอบดังนั้น 22“พระบิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นผู้ใดนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นผู้ใดนอกจากพระบุตร และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้”” ลูกา 10:20-22
นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่ได้จาลึกไว้แล้ว ผู้ที่สรรเสริญและขอบพระคุณจะประสบกับสันติสุขเป็นที่ยิ่ง ความชื่นชมยินดี การวางภาระหนักไว้แทบพระบาทของพระองค์ มีพระองค์เราก็มีทุกสิ่งอย่างเพียงพอและบริบูรณ์แล้วนั่นเอง
คำขอบพระคุณนำไปสู่การทรงโปรดปราน คำขอบพระคุณคือการรับใช้และการได้อยู่ในการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ ขอให้ชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยคำขอบพระคุณและคำสรรเสริญในพระองค์เสมอไป ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ดีหรือร้ายก็ตาม พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
“2ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี 3เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง 4และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย” ยากอบ 1:2-4
อาเมน
Comments