top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2022

บทความจากศิษยาภิบาลคริสตจักรขอนแก่น ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร


พระธรรมสดุดี 31:23 สอนเราดังนี้ว่า

“ท่านบรรดาธรรมิกชนทั้งสิ้นของพระองค์เอ๋ย จงรักพระเจ้า พระเจ้าทรงพิทักษ์รักษาคนซื่อสัตย์ไว้ แต่ทรงสนองผู้กระทำอหังการอย่างเต็มขนาด”

และในพระธรรมมาระโก 12:29-31

“29พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “ธรรมบัญญัติเอกนั้นคือว่า โอ ชนอิสราเอลจงฟังเถิด พระเจ้าของเราทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าเดียว 30และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน 31และธรรมบัญญัติที่สองนั้นคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติอื่นที่ใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งสองนี้ไม่มี””

ก็ได้สอนเราไว้เหมือนกันคือให้รักองค์พระผู้เป็นเจ้าเราจะเห็นได้ว่าความรักในพระองค์มีคุณค่าและความสำคัญยิ่งนักต่อชีวิตของผู้เชื่อและต่อมนุษย์ทุกๆ คนในโลกของเรานี้ และโมเสสก็ได้ย้ำเตือนถึงเรื่องนี้ต่อประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า


เฉลยธรรมบัญญัติ 4:1-2

“1“บัดนี้ โอคนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังกฎเกณฑ์และกฎหมายซึ่งข้าพเจ้าสอนท่านทั้งหลาย จงประพฤติตามเพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ และเข้าไปยึดครองแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทรงประทาน แก่ท่าน 2ท่านทั้งหลายอย่าเสริมเติมคำที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ และอย่าตัดออก เพื่อท่านทั้งหลายจะรักษา พระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน”

ความรักแท้ในพระองค์จึงส่งผลต่อชีวิตของเราในหลากหลายด้านดังจะกล่าวโดยสังเขป คือ

(1) ความรักในพระองค์เป็นเหตุให้เราสามารถรักผู้อื่นด้วยน้ำใจอย่างองค์พระผู้เป็นเจ้าได้

เราสามารถเป็นคนใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารีย์ได้ก็โดยความรักจากพระองค์และเป็นผลขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเรา เราสามารถแบ่งปันความรักเช่นนี้ให้แก่ทุกๆ คนได้แม้แต่ศัตรูของเราก็สามารถสัมผัสได้เช่นกัน “7ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า 8ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก 9โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร” 1 ยอห์น 4:7-9 พระวจนะตอนนี้ยืนยันเราเช่นนั้น ผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์และเชื่อฟังพระองค์สามารถพบกับความรักแท้เช่นนี้และสามารถนำไปเผื่อแผ่เจือจานทุกๆ คนในโลกนี้ได้อย่างมหัศจรรย์ใจยิ่ง

(2) ความรักในพระองค์นำพาเรามีชีวิตแห่งความชอบธรรมและใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากความบาปผิดทั้งปวงได้

พระองค์ทรงสอนเราว่า “เหตุฉะนี้พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จงรักษาพระดำรัสสั่ง กฎเกณฑ์ และกฎหมายและพระบัญญัติของพระองค์เสมอไป” เฉลยธรรมบัญญัติ 11:1 ความรักในพระองค์มีแรงจูงใจและผลักดันให้เราใช้ชีวิตในทางของพระองค์และปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ซึ่งเป็นชีวิตที่ดี และนำพาชีวิตของเราไปสู่สันติสุขอันเปี่ยมล้น “2เพื่อท่านจะได้พิพากษาประชากรของพระองค์ด้วยความชอบธรรม และคนยากจนของพระองค์ด้วยความยุติธรรม 3ให้ภูเขาบังเกิดสันติสุขสำหรับประชาชน และเนินเขา โดยความชอบธรรม” สดุดี 72:2-3 ผู้ที่รักในพระองค์ย่อมห่างไกลจากความบาปผิดต่างๆ และเจริญขึ้นสู่ความชอบธรรมในพระองค์ในทุกๆ วันตลอดเวลาเรื่อยไป “คนตะกละเร้าให้เกิดการวิวาท แต่ผู้ที่วางใจในพระเจ้าจะเจริญขึ้น” สุภาษิต 28:25

(3) ความรักในพระองค์ส่งเสริมให้ชีวิตของเราเกิดผลอันดีอย่างมากมาย

ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงสิ่งที่ข้าพระองค์ได้กระทำเพื่อชนชาตินี้ ให้เกิดผลดีเถิด” เนหะมีย์ 5:19 เนหะมีย์ได้นำคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้กลับมายังบ้านเกิดกลับจากการเป็นเชลยและก็ได้เกิดผลอันดีเป็นประจักษ์พยานถึงในปัจจุบันนี้ ชนชาตินี้กลับมาตั้งหลักเป็นประเทศหนึ่งในโลกนี้ได้อย่างสง่างามก็โดยความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อคนที่พระองค์ทรงรักและต่อผู้ที่รักพระองค์อย่างปฏิเสธไม่ได้ และยังมีพระวจนะอีกตอนหนึ่งที่บรรยายถึงผู้ที่รักพระองค์ก็เกิดผลอันดีในทุกๆ ห้วงแห่งชีวิตของเขาเสมอไป “12คนชอบธรรม ก็งอกขึ้นอย่างต้นอินทผลัม เจริญขึ้นอย่างต้นสนสีดาร์ในเลบานอน 13คนได้ปลูกมันไว้ในพระนิเวศของพระเจ้า มันเจริญขึ้นในบริเวณของพระเจ้าของเราทั้งหลาย 14มันแก่แล้วก็ยังเกิดผล มันมีน้ำเลี้ยงเต็มและเขียวสดอยู่ 15เพื่อแสดงว่าพระเจ้านั้นเที่ยงธรรม พระองค์ทรงเป็นพระศิลาของข้าพระองค์ ในพระองค์ไม่มีความอธรรม” สดุดี 92:12-15

(4) ความรักในพระองค์เป็นแรงหนุนน้ำใจให้เราได้อุทิศถวายตนเองที่จะรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจและอย่างสุดชีวิตของเรา

การรับใช้คือการนำเสนอโอกาสแห่งพระพรและความรักของพระองค์ไปสู่คนบาปคนอื่นๆ ให้ได้หันกลับจากความบาปผิดให้ได้กลับมาสู่อ้อมอกอันอบอุ่นแห่งแผ่นดินสวรรค์ เราต้องคุ้นเคยกับพระวจนะข้อนี้อย่างแน่นอน “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์” ยอห์น 3:16 การรับใช้พระองค์เป็นการตอบสนองต่อพระคุณและความรักของพระองค์ เราจึงออกไปในทุกหนแห่งทั่วโลก สร้างสาวกขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าด้วยความรักของพระองค์ ความรักของพระองค์เปลี่ยนโลกแห่งความเกลียดชังให้ได้กลับกลายเป็นความอบอุ่นโอบอ้อมอารีย์น่าอยู่ โลกนี้สดสวยและงดงามด้วยความรักของพระองค์ “พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง”” ยอห์น 8:31 และ “ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา” ยอห์น 13:35 ความรักแท้ในพระองค์เป็นพระพรสู่โลนี้ได้ ความรักแท้ของพระองค์เป็นพระกิตติคุณอันล้ำค่าที่เราจะต้องแบ่งปันนำไปสู่ผู้คนในโลกนี้อีกมากมาย

ความรักของพระองค์นำเราให้รักทุกๆ คนในโลกนี้ได้อย่างปราศจากเงื่อนไขใดๆ ความรักของพระองค์นำเราสู่ชีวิตแห่งความชอบธรรมและไกลห่างจากความอธรรมทั้งปวง ความรักของพระองค์นำพาชีวิตเราให้ได้เกิดผลอันดีถวายพระเกียรติในพระองค์ และความรักแท้ในพระองค์หนุนน้ำใจเราในการรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ ขอให้เราทุกๆ คนดำรงตนให้ได้อยู่ความรักของพระองค์อย่างมั่นคงเสมอไป พบกันใหม่อีกครั้งในสัปดาห์หน้าครับผม “แต่พระเจ้าทรงปรีดีในคนที่ยำเกรงพระองค์ และในคนที่ความหวังของเขาอยู่ในความรัก มั่นคงของพระองค์” สดุดี 147:11 อาเมน

ดู 10 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page