top of page

พบกับ ศบ. ฉบับวันที่ 19 กันยายน 2021

ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

เปาโลได้สอนและเตือนสติลูกศิษย์อันเป็นที่รักแห่งพระพรของท่านว่าดังนี้

11จงสั่งและสอนสิ่งเหล่านี้ 12อย่าให้ผู้ใดหมิ่นประมาทความหนุ่มแน่นของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อทั้งปวง ทั้งในทางวาจาและการประพฤติ ในความรัก ในความเชื่อ และในความบริสุทธิ์ 13จงใฝ่ใจในการอ่านพระคัมภีร์ในที่ประชุม ในการเทศนาและในการสั่งสอนจนกว่าเราจะมา 14อย่าละเลยความสามารถที่มีอยู่ในตัวท่าน ซึ่งได้ทรงประทานแก่ท่านตามคำพยากรณ์ เมื่อคณะผู้ปกครองได้เอามือวางบนท่าน” 1 ทิโมธี 4:11-14

แท้จริงก็คือคำกำชับให้ดูแลชีวิตฝ่ายวิญญาณอย่างเอาใจใส่หรืออย่างเอาจริงเอาจังอย่างเข้มงวด

ละเลยไม่ได้เพราะชีวิตฝ่ายวิญญาณกับชีวิตฝ่ายร่างกายมีความละม้ายคล้ายคลึงกันฉันใด ฝ่ายจิตวิญญาณก็เฉกเช่นเดียวกัน ร่างกายของเรายังต้องการการดูแลอย่างเอาใจใส่ ฝ่ายวิญญาณก็เป็นเช่นกันไม่ต่างกันเลย ชีวิตที่เจริญเติบโตเข้มแข็งฝ่ายจิตวิญญาณและมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมเป็นชีวิตแห่งพระพรที่จะสามารถนำผู้คนมากมายให้ได้เข้าถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าและได้รับพระพรเช่นกัน ชีวิตที่เข้มแข็งก็จะเกิดผลในการรับใช้พระองค์ สามารถยืนหยัดต่อสู้อุปสรรคปัญหาต่างๆ ได้อย่างแข็งแกร่งมั่นคงเป็นพยานถึงความใหญ่ยิ่งในพระองค์ได้เป็นอย่างดี

เราควรจะดูแลเอาใจใส่สิ่งเหล่านี้คือ

(1) มั่นใจและมั่นคงในความรอด

ชีวิตนิรันดร์เป็นของขวัญอันล้ำค่าจากองค์พระเยซูคริสต์เจ้า รักษาความมั่นใจในความรอด “ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ” ฟิลิปปี 3:14 องค์พระเยซูคริสต์เจ้าคือจุดหมายปลายทางของชีวิตเรา รักษาให้มั่นคงในพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ ติดสนิทใกล้ชิดกับพระองค์เสมอในการอธิษฐานในการนมัสการในพระคำ ในคริสตจักรของพระองค์จนกว่าพระองค์จะได้เสด็จกลับมารับเราไปอยู่กับพระองค์

(2) เจริญขึ้นในความเชื่อวางใจในพระองค์

การดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน อนาคตต่างๆ เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ปัญหาต่างๆ ความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบางครั้งยากที่จะแก้ไขหรือปรับตัวได้ทันกาลเวลา ความเชื่อ การวางใจในพระองค์ และในพระองค์ทุกสิ่งเป็นไปได้เสมอ “ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง” ฮีบรู 11:1 และ “ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์” โรม 10:17 ขอให้เราเชื่อวางใจในพระองค์และเติบโตขึ้นในความเชื่อ อาหารบำรุงชีวิตฝ่ายวิญญาณในความเชื่อคือพระคำ คำพยานประสบการณ์จริงและประสบการณ์ตรงในพระองค์นั่นเอง “ท่านที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้ตั้งใจจะเขียนถึงท่านเรื่องความรอดร่วมกัน แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า จำเป็นจะต้องเขียนวิงวอนท่านให้ต่อสู้เพื่อหลักคำสอนที่เชื่อกันอยู่ ที่ได้ทรงโปรดมอบไว้แก่ธรรมิกชนครั้งเดียวเป็นพอนั้น” ยูดาห์ 1:3

(3) การเต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

และชีวิตเต็มไปด้วยคำขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้า “18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย 19อย่าดับพระวิญญาณ” 1 เธสะโลนิกา 5:18-19 พระวจนะสอนอย่างชัดเจนและหนักแน่นมั่นคงให้เต็มไปด้วยพระวิญญาณและคำขอบพระคุณอันเป็นการมองโลกในมุมมอง ในสายพระเนตรและในน้ำพระทัยของพระองค์ ในส่วนของอัครทูตก็ได้บันทึกไว้ว่า “เมื่อเขาอธิษฐานแล้ว ที่ซึ่งเขาประชุมอยู่นั้นได้หวั่นไหว และคนเหล่านั้นประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้กล่าวพระวจนะของพระเจ้าด้วยใจกล้าหาญ” กิจการ 4:31 เมื่อคนของพระองค์เต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พันธกิจต่างๆ ก็ได้เจริญเติบโตขยายก้าวหน้าขึ้นไปอย่างมากมาย การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณนำพาชีวิตของเราให้ได้ห่างไกลจากความบาปผิดต่างๆ

สิ่งที่เราควรเอาใจใส่ในชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราอย่างน้อยๆ สามสิ่งคือ ความมั่นใจในความรอด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักเรา เจริญขึ้นในความเชื่อ ประกาศสำแดงพระคริสต์เจ้า และการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณนำพาเราเดินหน้าต่อไปกับองค์พระผู้เป็นเจ้า พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 16 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Commenti


bottom of page