top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 18 กันยายน 2022

พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความจริงชั่วนิจนิรันดร์สอนและนำผู้คนให้ได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องคุ้มค่า และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด

“29ศักดิ์ศรีของคนหนุ่ม คือกำลังของเขา แต่ความงามของคนแก่คือผมหงอกของเขา” สุภาษิต 20:29

ผมหงอกคือความงามของคนแก่หรือผู้อาวุโส การที่จะมีอายุได้ยืนนานได้ต้องรักษาชีวิตเป็นอย่างดีทั้งทางกาย จิตใจและจิตวิญญาณ และมีพระวจนะอีกตอนหนึ่งกล่าวว่า

“9เมื่อวัยชรา ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ทิ้งเสีย ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์หมดแรง,18แม้จะถึงวัยชราและผมหงอกก็ตาม ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย จนกว่าข้าพระองค์จะประกาศถึงอานุภาพของ พระองค์แก่ชาติพันธุ์ถัดไป และฤทธิ์เดชของพระองค์แก่ผู้ที่จะเกิดมา” สดุดี 71:9, 18

ซึ่งการที่จะมีชีวิตเช่นนี้ต้องรู้จักเคล็ดลับและการมีชีวิตที่ใกล้ชิดและสนิทสนมกับองค์พระผู้เป็นเจ้านั่นเอง ในยุคปัจจุบันที่ยังคงมีโรคระบาดร้ายแรง สังคมเสื่อม เศรษฐกิจและการเมืองต่างๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินชีวิตเต็มไปด้วยความยุ่งยาก สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนปมต่างๆ อย่างมากมาย ทุกๆ คนในบริบทของสังคมต่างก็ต้องมีบทบาทหน้าที่ ศักดิ์ศรีต่างๆ เสมอหน้ากัน ยิ่งผู้อาวุโสพึงตระหนักอยู่เสมอว่าตนเองยังมีคุณค่า และบทบาทในสังคมและในครอบครัวเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน การที่จะมีอายุยืนยาวตามที่พระวจนะทรงสอนเราไว้ต้องมีมุมมองโลกและต่อชีวิต สิ่งต่างๆ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสอนเราเอาไว้ การมีเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจนและเด่นชัด การรู้จักเรียนรู้และปรับตัวเองอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น ต้องทันสมัยเช่นการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในโลกยุคดิจิตอลและนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ต้องเอาใจใส่และเป็นภาระกิจต้องทำนุบำรุงสุขภาพให้ดีและแข็งแรงอยู่เสมอๆ ผู้อาวุโสไม่ใช่ภาระของครอบครัวและหรือภาระของสังคมแต่เป็นพระพร เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามที่ทรงคุณค่าตามพระวจนะที่ได้สอน

“12“จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า” อพยพ 20:12

ซึ่งการได้เป็นผู้อาวุโสเป็นแบบอย่างของชีวิตที่เชื่อฟังและยำเกรงในพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ควรได้รับเกียรติยกย่องเชิดชูให้เป็นประจักษ์จึงจะเป็นการดำเนินชีวิตในพระคำของพระองค์ สิ่งที่สำคัญในชีวิตของผู้อาวุโสมีคร่าวๆ ดังต่อไปนี้ คือ


(1) การเอาใจใส่ดูแลสุขภาพด้านร่างกายอย่างดี

“16ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน 17ถ้าผู้ใดทำลายวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายผู้นั้น เพราะวิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ และท่านทั้งหลายเป็นวิหารนั้น” 1 โครินท์ 3:16-17

การใช้ชีวิตบนโลกก่อนไปอยู่บ้านอันถาวรนิรันดร์ บ้านในโลกนี้ต้องดำรงชีพอาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารัรกษาโรค ฯลฯ เราขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ผู้อาวุโสควรได้รับการตอบสนองในปัจจัยในการดำรงชีพอย่างบริบูรณ์และเพียงพอ


(2) การเอาใจใส่ในการดำเนินชีวิตที่อบอุ่นและปลอดภัยมีค่าใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นต่างๆ อย่างเพียงพอ

โดยการวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ใช้ชีวิตในการอธิษฐานและนมัสการเป็นประจำสม่ำเสมอมิได้ขาด เปาโลกล่าวว่า

“13ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” ฟิลิปปี 4:13


(3) ความรักและร่วมกันกับคริสตจักรในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า

สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความสุข คริสตจักรที่อบอวลไปด้วยความรักในพระคริสต์เจ้านำมาซึ่งพระพร สร้างสาวกและขยายแผ่นดินของพระองค์ไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก

“46เขาได้ร่วมใจกันไปในพระวิหาร และหักขนมปังตามบ้านของเขา ร่วมรับประทานอาหารด้วยความชื่นชมยินดีและใจกว้างขวาง ทุกวันเรื่อยไป 47ทั้งได้สรรเสริญพระเจ้าและคนทั้งปวงก็ชอบใจ ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดให้คนทั้งหลายซึ่งกำลังจะรอด มาเข้ากับพวกสาวกทุกวันๆ” กิจการ 2:46-47

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า


(4) คำหนุนน้ำใจและคำเสริมสร้างให้ผู้อาวุโสที่จะใช้ชีวิตอย่างถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

การเชื่อฟัง ยำเกรง ชีวิตที่เป็นแบบอย่าง

“3เราจะให้ทรัพย์สมบัติแห่งความมืดแก่เจ้า และขุมทรัพย์ในที่ลี้ลับ เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่า คือเรา พระเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า” อิสยาห์ 45:3

การยกย่องเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ได้เป็นที่หนึ่งแห่งชีวิตของเรา


(5) การได้ใช้ชีวิตอย่างติดสนิทในองค์พระผู้เป็นเจ้า

“4ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์” สดุดี 27:4

เตรียมชีวิตในบั้นปลายสู่แผ่นดินสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตของมนุษย์เรามีวาระในทุกๆ สิ่งที่สำคัญและพึงตระหนักรู้อยู่เสมอคือ รักพระองค์และยำเกรงในพระองค์ นี่เป็นสิ่งสุดยอดปรารถนาในชีวิตของมนุษย์เราทุกๆ คน

“13จบเรื่องแล้ว ได้ฟังกันทั้งสิ้นแล้ว จงยำเกรงพระเจ้า และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เพราะนี่แหละเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทั้งปวง 14ด้วยว่าพระเจ้าจะทรงเอาการงาน ทุกประการเข้าสู่การพิพากษาพร้อมด้วยสิ่งเร้นลับทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่ว” ปัญญาจารย์ 12:13-14

การส่งต่อสิ่งดีๆ ไปยังชนรุ่นต่อๆ ไปถือเป็นภาระกิจอันสำคัญและจำเป็นยิ่งเช่นกัน การดูแลร่างกาย เอาใจใส่ ป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ก็สำคัญ การดูแลจิตใจให้ชื่นชมยินดีและร่าเริงในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ และจิตวิญญาณที่ติดสนิทผูกพันในพระองค์ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page