พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโสคริสตจักรขอนแก่น
การดำเนินชีวิตคริสเตียนจะว่าง่ายก็ง่ายดายเพียงเชื่อฟังในองค์พระผู้เป็นเจ้าดำเนินชีวิตตามการทรงนำแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ และรักษาชีวิตในทางบริสุทธิ์แด่พระองค์ ฯลฯ และหากจะว่ายากก็ไม่ผิดเช่นกันเพราะเรามีอุปสรรคปัญหาต่างๆ ของชีวิตที่ประเดประดังเข้ามาอยู่เสมอๆ มิได้ขาด
การที่จะมีชีวิตแห่งชัยชนะเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ อดทนและเอาใจใส่ในการดำเนินชีวิตอย่างชาญฉลาด คำแนะนำสติปัญญาที่จะต้องมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เรียนรู้และรับการสอนจากพระองค์ตลอดชีวิต ศัตรูแห่งชีวิตคริสเตียนไม่ว่าจะเป็นระบบของโลกนี้ วิถีชีวิตตามธรรมดาสามัญ การงานของเนื้อหนังของเราเอง เหล่าซาตานวิญญาณชั่ว เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำการขัดขวางและต่อสู้เราในการดำเนินชีวิตกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราอยู่เสมอตลอดเวลาหรือ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์โดยไม่มีเวลาหยุดพ้กเลย
พระวจนะสอนเราดังนี้
“6แต่พระองค์ก็ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก เหตุฉะนั้น พระคัมภีร์จึงกล่าวว่า พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม 7เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีท่านไป 8ท่านทั้งหลายจงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจ จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์” ยากอบ 4:6-8
เราจะต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้โดยยุทธวิธีขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างน้อย 4 สิ่งที่จะเข้ามาสู่ชีวิตเราเสมอ
(1) การเอาชนะความกลัว
อุปสรรคปัญหาของชีวิตที่ใหญ่ยิ่งสำหรับมนุษย์เราคือความกลัว แทนความกลัวคือความกล้าหาญที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า “7เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงประทานจิตที่ขลาดกลัวให้เรา แต่ได้ทรงประทานจิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา” 2 ทิโมธี 1:7 สอนเราถึงความกล้าหาญที่จะทำลายสิ่งที่มาจากเนื้อหนัง โลก หรือซาตานลงได้อย่างราบคาบ เรามีกำลังจำกัด สติปัญญาและอื่นๆ จำกัด พระองค์จะทรงนำฝึกชีวิตของเราให้แข็งแกร่ง “1สาธุการแด่พระเจ้า พระศิลาของข้าพเจ้า ผู้ทรงฝึกมือของข้าพเจ้าให้ทำสงคราม และนิ้วมือของข้าพเจ้าให้ทำศึก 2ทรงเป็นความรักมั่นคง และป้อมปราการ เป็นที่กำบังเข้มแข็ง และเป็นผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า เป็นโล่ของข้าพเจ้า และเป็นผู้ซึ่งข้าพเจ้า ลี้ภัยในพระองค์ ผู้ทรงปราบชนชาติทั้งหลายไว้ใต้ข้าพเจ้า” สดุดี 144:1-2 ขอแต่เพียงให้เราดำเนินชีวิตในพระคำ อ่าน เชื่อฟังในพระวจนะของพระองค์เสมอไปเป็นพอ
(2) การเอาชนะการบิดเบือนหลอกลวงไปจากความจริง
เป็นที่ประจักษ์มีของแท้ ของทำเลียนแบบ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความจริง ทางแห่งชีวิต “44ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสาและเป็นพ่อของการมุสา” ยอห์น 8:44 เราจะต้องสร้างชีวิตและตั้งมั่นอยู่ในพระคำ ในทางความเชื่อขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว พระวจนะสอนเราดังนี้ “5คือทำลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์” 2 โครินธ์ 10:5 การดำเนินชีวิตอันเต็มล้นไปด้วยพระวิญญาณ จะสามารถแยกแยะความเท็จและความจริงได้ ซึ่งมีข้อแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจนคนฝ่ายวิญญาณจะเลือกตามอย่างพระคริสต์เจ้า “15แต่มนุษย์ฝ่ายวิญญาณวิจัยสิ่งสารพัดได้ แต่ไม่มีผู้ใดจะวิจัยใจคนนั้นได้ 16เพราะว่า ใครเล่ารู้จักพระทัยของพระเจ้าเพื่อจะแนะนำสั่งสอนพระองค์ได้ แต่เราก็มีพระทัยของพระคริสต์” 1 โครินท์ 2:15-16
(3) การเอาชนะความบาป
ย้ำอีกครั้งจากพระธรรม “7เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีท่านไป 8ท่านทั้งหลายจงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจ จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์” ยากอบ 4:7-8 การล้มลงในความบาป เอาชนะได้ด้วยการลุกขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ล้มลงและตั้งใจที่จะเดินหน้าต่อไปกับพระองค์อยู่เสมอ ในทางชอบธรรมของพระองค์ตลอดไป
(4) การเอาชนะความเย่อหยิ่งจองหอง
“10เพราะความทะลึ่งผู้ประมาทจึงก่อวิวาท แต่ปัญญาอยู่กับบรรดาผู้ที่รับคำแนะนำ” สุภาษิต 13:10 อันตรายอย่างมากหากมีสิ่งนี้ในชีวิตของเราซึ่งเป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเกลียดชัง “16มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์ 17ตายโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก” สุภาษิต 6:16-17 การดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ “5ในทำนองเดียวกันท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงเชื่อฟังคำของพวกผู้ใหญ่ อันที่จริงให้ท่านทุกคนมีความถ่อมใจในการปฏิบัติต่อกันและกัน ด้วยว่าพระเจ้าทรงเป็นปฏิปักษ์กับคนเหล่านั้นที่ถือตัวจองหอง แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน 6เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร” 1 เปโตร 5:5-6 สอนให้เราพึ่งพระองค์ที่จะนำชีวิตเราไปสู่ชัยชนะในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ในที่สุด คนฉลาดจะเรียนรู้ที่จะถ่อมใจเสมอและอวดในองค์พระผู้เป็นเจ้าแทน “2เมื่อความเย่อหยิ่งมาถึง ความหยามน้ำหน้าก็มาด้วย แต่ปัญญาอยู่กับคนใจถ่อม” สุภาษิต 11:2
ขอให้เราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตและใช้ชีวิตของเราในทางกล้าหาญ อยู่ในความจริงแห่งพระวจนะ อยู่ในความบริสุทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอไปและอยู่ในความรักของพระองค์ที่ถ่อมสุภาพอ่อนโยนเสมอไป พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
Comments