การดำเนินชีวิตคริสเตียนมีทั้งความสุขและความทุกข์คละเคล้ากันไปตามวาระต่างๆ ของชีวิตที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาตให้ผ่านเข้ามาในชีวิตคริสเตียนของเรา เราควรจะเรียนรู้ที่มีท่าทีต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าร้ายหรือดีอย่างท่านโยบที่บั้นปลายท่านเอาชนะอุปสรรคต่อสิ่งต่างๆ ได้โดยพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า
“21ท่านว่า “ข้าพเจ้ามาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าตัวเปล่า และข้าพเจ้าจะกลับไปตัวเปล่า พระเจ้าประทาน และพระเจ้าทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระเจ้า” 22ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้นโยบมิได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า” โยบ 1:21-22
และท่านยังได้สอนผู้คนมากมายไว้ดังนี้เช่นกันคือ
“9แล้วภรรยาท่านเรียนว่า “ท่านยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของท่านอีกหรือ จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ” 10แต่ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโฉดจะพึงพูด เราจะรับสิ่งดีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้นโยบมิได้กระทำผิดด้วยริมฝีปากของตน” โยบ 2:9-10
พระองค์ทรงสอนให้เราที่จะสรรเสริญและขอบพระคุณในทุกๆ สิ่ง
“17จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” 1 เธสะโลนิกา 5:17-18
ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่แท้จริงแล้วก็คือสงครามฝ่ายจิตวิญญาณนั่นเอง ซึ่งพระวจนะมีหลากหลายตอนที่สอนถึงเรื่องนี้ เช่น คนหนึ่งถูกผีสิงที่เมืองชาวเก-ราซา เป็นต้น (มาระโก 5:1-13) พระองค์ทรงประทานให้เหล่าสาวกขอพระองค์มีชัยชนะเหนือผี เป็นต้น
“1พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมาพร้อมกัน แล้วก็ประทานให้เขามีอำนาจเหนือผีทั้งปวง และรักษาโรคต่างๆ ให้หาย” ลูกา 9:1
และองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นแบบอย่างในการนี้เช่นกันดังบันทึกไว้ใน
พระธรรมมัทธิว 8:16-17 “16พอค่ำลง เขาพาคนผีเข้าสิงเป็นอันมากมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงขับผีออกด้วยพระดำรัส และบรรดาคนเจ็บป่วยทั้งหลายนั้น พระองค์ก็ได้ทรงรักษาให้หาย 17ทั้งนี้เพื่อจะให้สำเร็จตามพระวจนะโดยอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะที่ว่า ท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบโรคของเราไป”
ในการเรียนรู้ถึงสงครามฝ่ายวิญญาณพระวจนะได้สอนเราถึงการนี้ดังนี้คือ
(1) เราต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอและต่อสู้กับเหล่าวิญญาณชั่วต่างๆ ด้วยฤทธานุภาพขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า
“11จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้” เอเฟซัส 6:11 และ “8ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ 9จงต่อสู้กับศัตรูนั้นด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ เพราะว่า พวกพี่น้องทั้งหลายของท่านทั่วโลก ก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน” 1 เปโตร 5:8-9
เราจำเป็นต้องต่อสู้และใช้อาวุธของฝ่ายจิตวิญญาณตามที่พระวจนะได้สอนเราไว้ เอเฟซัส 6:13-17
1. ความจริงเป็นเสมือนเข็มทิศเรา
2. ชีวิตแห่งความชอบธรรมเป็นเสมือนเสื้อเกราะ
3. ข่าวดีเป็นเสมือนรองเท้า
4. ความเชื่อเป็นเสมือนโล่ป้องกันชีวิตเรา
5. ความรอดเป็นเสมือนหมวกเหล็กป้องกันอันตรายจะมาถึงศีรษะของเรา
6. พระวจนะเป็นอาวุธ
นี่เป็นคำสอนของพระวจนะอย่างเอาจริงเอาจัง
(2) การมีชีวิตที่ติดสนิทใกล้ชิดกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในการอธิษฐาน
ในการนมัสการเป็นการทำสงครามอย่างชาญฉลาด จะนำชีวิตไปสู่ชัยชนะอันแท้จริงได้
“15พระองค์ทรงปลดเทพผู้ครองและศักดิเทพเสีย พระองค์ได้ทรงประจานเขา และชนะเขาโดยกางเขนนั้น” โคโลสี 2:15
ไม่มีใครอาจหาญต่อสู้และมีชัยชนะเหนือพระองค์ได้ เราต้องมีวินัยในการใช้ชีวิตที่สนิทสนมกับพระองค์เสมอไป และตลอดไป
“4จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน แขนงจะออกผลเองไม่ได้ นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น 5เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” ยอห์น 15:4-5
(3) ดำเนินชีวิตที่ประกาศพระคริสต์เจ้าด้วยความสัตย์ซื่อและยำเกรงต่อพระนามของพระองค์เสมอไป
“27เพราะเหตุว่าคนที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้ว ก็จะสวมชีวิตพระคริสต์ 28จะไม่เป็นยิวหรือกรีก จะไม่เป็นทาสหรือไท จะไม่เป็นชายหรือหญิง เพราะว่าท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยพระเยซูคริสต์ 29และถ้าท่านเป็นของพระคริสต์แล้วท่านก็เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม คือเป็นผู้รับมรดกตามพระสัญญา” กาลาเทีย 3:27-29
เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเราเป็นคนใหม่ในพระคริสต์เจ้า
ก) เป็นผู้ที่บังเกิดใหม่ในพระองค์
ข) เป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตในความเชื่อเสมอไป
ค) เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตในทางชอบธรรมห่างไกลจากความบาปผิดต่างๆ
ง) การรับใช้พระองค์นำคนบาปมาถึงพระคริสต์เจ้าด้วยวิถีชีวิตแห่งข่าวประเสริฐรับใช้คริสตจักรของพระองค์พันผูกชีวิตในพระกายของพระองค์
“16เพราะว่าในพระองค์สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้าและที่แผ่นดินโลก สิ่งซึ่งประจักษ์แก่ตาและซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์ หรือเป็นเทพอาณาจักร หรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ สรรพสิ่งทั้งสิ้นถูกสร้างขึ้น โดยพระองค์และเพื่อพระองค์ 17พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นระเบียบอยู่โดยพระองค์ 18พระองค์ทรงเป็นศีรษะของกาย คือคริสตจักร พระองค์ทรงเป็นปฐม เป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในสรรพสิ่งทั้งปวง” โคโลสี 1:16-18
เราจะมีชีวิตแห่งชัยชนะเหนือสงครามฝ่ายวิญญาณอย่างแน่นอน
พวกเราสามารถมีชีวิตแห่งชัยชนะเหนือสงครามฝ่ายวิญญาณได้อย่างแน่นอนเพียงแต่ตื่นตัวเฝ้าระวังในการดำเนินชีวิตในพระเป็นเจ้าอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พันผูกติดสนิทในพระองค์และประกาศพระองค์เสมอ เราไม่อาจหลีกหนีการต่อสู้ทางฝ่ายจิตวิญญาณได้ การต่อสู้คือทางที่จะนำไปสู่ขุมพระพรอันมากมายในพระองค์ของบั้นปลายของสงครามฝ่ายจิตวิญญาณ แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม