พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโสคริสตจักรขอนแก่น
ในพระธรรม 1 เปโตร 5:10-11 ได้สอนเราดังนี้ว่า
“10และเมื่อท่านทั้งหลายได้ทนทุกข์อยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้ว พระเจ้าผู้ทรงพระคุณล้ำเลิศ ผู้ได้ทรงเรียกให้ท่านทั้งหลายเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ในพระคริสต์ พระองค์เองก็จะทรงโปรดปรับปรุงท่านให้มั่นคง และมีกำลังขึ้น 11ขอไอศวรรยานุภาพ จงมีแด่พระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน”
ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความทุกข์ยากลำบากต่างๆ หรือปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของเราได้ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสอนหรือหนุนน้ำใจเราดังนี้ว่า
“เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว” ยอห์น 16:33
เราสามารถมีความสุขหรือสันติสุขสูงสุดในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเราก็ตาม
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นฝ่ายกายของเรา เช่น การเจ็บปวดป่วยไข้ด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะในยุคนี้ทุกๆ คนก็กล่าวขวัญถึงโรคมะเร็งร้ายต่างๆ โรคระบาดโควิด-19 เป็นต้น ฝ่ายจิตใจความวิตกกังวลใจต่างๆ ปัญหาเศรษกิจ สังคม หรืออื่นๆ อีกมากมาย ปัญหาฝ่ายจิตวิญญาณ การถูกปฏิเสธ การถูกตำหนิติเตียนวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ ตายแล้วจะไปไหน เป็นอย่างไร ฯลฯ
หากเราอยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเราจะมองเห็นพระพรในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากอย่างไม่ยากเย็นนักเลย
(1) เป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าใกล้ชิดและติดสนิทผูกพันในองค์พระคริสต์เจ้ามากยิ่งๆ ขึ้น
ทรงพระชนม์เป็นอยู่ ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ทรงครอบครองอยู่ จะไม่ทรงทอดทิ้งหรือละทิ้งชีวิตของเราเลย นี่เป็นพระวจนะที่สอน หนุนน้ำใจเราอย่างดี “4จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด 5จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว 6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์” ฟิลิปปี 4:4-7 ความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราเพื่อเราจะมีโอกาสได้สนิทสนมเรียนรู้จักพระองค์มากยิ่งๆ ขึ้นไป
(2) เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาชีวิต
เรียนรู้ปรับปรุงแก้ไขชีวิตของเราให้เจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นในพระองค์ เราคงยังจำพระวจนะตอนนี้ได้ดี
“10“เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เมื่อเจ็ดสิบปีแห่ง บาบิโลนครบแล้ว เราจะเยี่ยมเยียนเจ้าและจะให้คำสัญญาของเรา สำเร็จเพื่อเจ้าและจะนำเจ้ากลับมาสู่สถานที่นี้ 11พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า 12แล้วเจ้าจะทูลขอต่อเรา และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า 13เจ้าจะแสวงหาเราและพบเราเมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วย สิ้นสุดใจของเจ้า” เยเรมีย์ 29:10-13
เป็นถ้อยคำขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงสอนชนชาติของพระองค์โดยการต้องไปเป็นเชลยที่บาบิโลนถึง 70 ปี แห่งความทุกข์ยากลำบากทุกๆ ด้าน กาย จิตใจ และจิตวิญญาณแต่เมื่อความทุกข์ผ่านพ้นไปสิ่งดีๆ ก็ได้เกิดขึ้นกับชนชาติของพระองค์ คนอิสราเอลได้บทเรียนแห่งการสัตย์ซื่อยำเกรงในพระองค์ ละทิ้งความบาปผิดการกราบไหว้รูปเคารพต่างๆ เททั้งชีวิตให้กับพระองค์ในการอธิษฐานและนมัสการ ความทุกข์ยากลำบากจึงเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้พัฒนาชีวิตปรับทัศนคติท่าที พฤตินิสัย ปฏิบัติตนในพระวจนะของพระองค์อันเป็นการประกาศพระนามและได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์อย่างสูงสุด
(3) เป็นโอกาสแห่งการที่จะได้ปรนนิบัติรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่นได้อย่างดี
ในยามแห่งความทุกข์ยากลำบากเป็นห้วงเวลาที่ผู้คนเปิดชีวิตรับเอาพระพรและความช่วยเหลือต่างๆ ได้ง่ายกว่าห้วงเวลาปรกติ ในภาวะวิกฤติของชีวิตเป็นโอกาสที่เราจะนำความรักความห่วงใยคำปลอบประโลมใจไปยังผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
“มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก” สุภาษิต 17:17
ความรักชนะได้ในทุกๆ สิ่ง ประตูแห่งการประกาศพระกิตติคุณแผ่แพร่ออกไปได้ด้วยความรัก เราจึงมองความทุกข์ยากลำบากเป็นโอกาสแห่งพระพรต่างๆ ที่เราจะฉวยโอกาสในการประกาศพระคริสต์เจ้านั่นเอง
“ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง” 1 ยอห์น 3:18
ขอให้พวกเราเปลี่ยนมุมมองชีวิตแบบที่พระวจนะได้สอนเราคือเมื่อเจอกับความทุกข์ยากลำบากให้พวกเราเรียนสิ่งใหม่ๆ ในองค์พระผู้เป็นเจ้า ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้รู้จักและสนิทสนมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแนบแน่นยิ่งๆ ขึ้นและยิ่งเป็นโอกาสที่จะได้เจริญเติบโตขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างมั่นคงเข้มแข็งและยังเป็นโอกาสแห่งการสำแดงองค์พระผู้เป็นเจ้าแก่พี่น้องและโลกนี้ได้ประจักษ์ถึงความรักของพระองค์แก่ทุกๆ คนอย่างไม่จำกัดและอย่างปราศจากเงื่อนไขใดๆ เลย
“2ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี 3เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง 4และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย” ยากอบ 1:2-4
พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
Opmerkingen