top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน 2021

เรารู้หรือไม่ว่าการขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือหัวใจแห่งการขอบพระคุณในพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำไม่ใช่สิ่งที่เราจะเลือกทำหรือไม่ทำได้ เป็นความจำเป็นในชีวิตคริสเตียนที่ต้องมีและต้องทำ ต้องขอบพระคุณออกมาจากชีวิต จากหัวใจของเราถวายแด่พระองค์ เป็นความเชื่อ ความรัก ความผูกพันที่เรามีในพระองค์อย่างลึกซึ้งสุดหัวใจของเรา ชีวิตของโยบเป็นแบบอย่างเราได้ดี

1แล้วโยบทูลพระเจ้าว่า 2“ข้าพระองค์ทราบแล้วว่า พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งได้ และพระประสงค์ของพระองค์ จะไม่หดหู่ไปได้เลย 3'นี่ใครหนอที่ซ่อนคำปรึกษาด้วยไร้ความรู้' เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงกล่าวถึงสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่เข้าใจ สิ่งที่ประหลาดเกินแก่ข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ไม่ทราบ 4'ฟังซี เราจะพูด เราจะถามเจ้า ขอเจ้าตอบเรา' 5ข้าพระองค์เคยได้ยินถึงพระองค์ด้วยหู แต่บัดนี้ตาของข้าพระองค์เห็นพระองค์ 6ฉะนั้นข้าพระองค์จึงเกลียดตนเอง และกลับใจอยู่ในผงคลีและขี้เถ้า”” โยบ 42:1-6

โยบขอบพระคุณในพระองค์มีรากฐานมาจากหลายสิ่งในชีวิตของท่านที่เข้าใจในแก่นแท้ของชีวิต

(ก) โยบประจักษ์ในพระคุณความรักที่องค์พระผู้เป็นเจ้า

มีต่อชีวิตของท่านเอง

(ข) โยบได้ดำเนินชีวิตในพระองค์อย่างสุดหัวใจ

เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คนในยุคในสมัยของท่านเป็นอย่างดี ในการอธิษฐาน ในการนมัสการและในการรับใช้พระองค์

(ค) โยบมุ่งมั่นชีวิตที่มีเป้าหมาย

เพื่อการได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในที่สูงสุด และมีชีวิตอันเป็นที่ชอบพระทัยและถวายพระเกียรติแด่พระองค์

(ง) โยบมีความเชื่อและไว้วางใจ

ในพระองค์อย่างสุดหัวใจและได้มอบชีวิตของท่านในพระหัตถ์ของพระองค์ไม่ว่าจะร้ายหรือดีก็ตาม

การขอบพระคุณจึงเป็นการนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า การขอบพระคุณในพระองค์เป็นวิถีชีวิตแห่งคนของพระองค์ การขอบพระคุณพระองค์เป็นการนำคนมาถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างหนึ่งและเป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิตในการสร้างสาวก

16จงชื่นบานอยู่เสมอ 17จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” 1 เธสะโลนิกา 5:16-18

ได้สอนให้เรามีชีวิตแห่งการขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ การขอบพระคุณในพระองค์เสมอเป็นสิ่งต่างๆ ดังนี้


(1) เป็นการมองหรือมุ่งความสนใจ ความใส่ใจไปยังองค์พระผู้เป็นเจ้า

แทนตนเองที่เป็นมนุษย์ผู้มีความจำกัดและอ่อนแอ ในพระองค์คือกำลังความเข้มแข็ง

พระองค์เท่านั้นทรงเป็นศิลา และเป็นความรอดของข้าพเจ้า เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวใหญ่โต” สดุดี 62:2

(2) เป็นการยอมจำนนต่อแผนการและน้ำพระทัยของพระองค์

ในทุกๆ สิ่งสำหรับชีวิตของเรา ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายสำหรับคนของพระองค์เสมอ เป็นการไว้วางใจในพระองค์สุดหัวใจของเรา ในพระองค์เปี่ยมไปด้วยพระคุณและความรักเสมอๆ และไม่มีวันสิ้นสุด “พระองค์ทรงนำชนชาติ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่ไว้ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ พระองค์ทรงพาเขามาถึงที่สถิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยพระเดชานุภาพ” อพยพ 15:13 พระองค์ทรงนำคนของพระองค์ไปในสิ่งที่ดีเสมอไป

(3) ถ้อยคำและพระสัญญาต่างๆ ล้วนเป็นจริงเสมอๆ ในพระองค์

ผู้ที่ติดตามพระองค์เต็มไปด้วยพระคุณพระพรนานาประการจนสุดจะบรรยายได้ “แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน” อพยพ 20:6 กษัตริย์ดาวิดก็ได้เป็นแบบอย่างชีวิตแห่งการนมัสการสรรเสริญและขอบพระคุณในพระองค์เป็นที่ยิ่ง

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า และบรรดาพระวาทะของพระองค์เป็นความจริง และพระองค์ทรงสัญญาจะพระราชทานสิ่งดีนี้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์” 2 ซามูเอล 7:28

ชีวิตของพวกเราจึงควรต้อง จะต้องขอบพระคุณในพระองค์ นมัสการในพระองค์อยู่เสมอๆ ไป อย่างน้อยๆ เราได้เห็นบรรพบุรุษแห่งความเชื่อของเราคือ โยบ และ กษัตริย์ดาวิดนั่นเอง การขอบพระคุณเป็นวิถีชีวิตแห่งคนของพระองค์ที่ใจจดจ่ออยู่ที่พระองค์เสมอไป ยอมจำนนและมีชีวิตถวายพระเกียรติ เป็นพยานถึงพระองค์เสมอๆ ในพระองค์มีแต่เรื่องจริงและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนของพระองค์เสมอๆ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

bottom of page