คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดียิ่งในโอกาสแห่งเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดีและความสุขแห่งการเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า
“10ฝ่ายทูตองค์นั้นกล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังท่านทั้งหลาย คือความปรีดียิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง 11เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด” ลูกา 2:10-11
มีเหตุการณ์หลากหลายอย่างเกิดขึ้นซึ่งเราคงไม่อาจที่จะกล่าวได้หมดหรือกล่าวได้อย่างครบถ้วนในเทศกาลนี้มีหลากหลายมุมมองหรือแง่คิด คำสั่งสอนแห่งพระคำของพระองค์ถึงเรื่องนี้ ในเทศกาลนี้เราจะเห็นการมอบของขวัญให้แก่กันและกัน การส่งคำอวยพรแก่กันและกัน ในปัจจุบันเราส่งกันทางโลกสื่อสารมวลชนระบบดิจิตอลเป็นส่วนใหญ่แล้ว มีการตกแต่งประดับประดาบ้านเรือนด้วยต้นคริสตมาสอย่างสวยงามตระการตา ในห้วงเวลานี้ตามประวัติศาสตร์มีทั้งการประหัตประหารเด็กทารกเกิดขึ้น เหล่าโหราจารย์เดินทางมานมัสการพระกุมารเยซูมอบถวายของขวัญแด่พระองค์เป็นทองคำ กำยาน และมดยอบ เป็นต้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราจะได้ยินได้ฟังการบรรยายถึงความเป็นมาแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลสำคัญนี้ หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นหัวใจของเทศกาลนี้คือองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรานั่นเอง
“1ซึ่งมีตั้งแต่ปฐมกาล ซึ่งเราได้ยิน ซึ่งเราได้เห็นกับตา ซึ่งเราได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรานั้นเกี่ยวกับพระวาทะแห่งชีวิต 2(และชีวิตนั้นได้ปรากฏ และเราได้เห็น และเป็นพยาน และประกาศชีวิตนิรันดร์นั้นแก่ท่านทั้งหลาย ชีวิตนั้นได้ดำรงอยู่กับพระบิดาและได้ปรากฏแก่เราทั้งหลาย) 3ซึ่งเราได้เห็นและได้ยินนั้น เราก็ได้ประกาศให้ท่านทั้งหลายรู้ด้วย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ร่วมสามัคคีธรรมกับเรา เราทั้งหลายก็ร่วมสามัคคีกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์” 1 ยอห์น 1:1-3
ก็ได้กล่าวถึงองค์พระเยซูคริสต์เจ้าผู้เป็นหลักและรากเหง้าของวันอันสำคัญนี้ที่ได้มีการเฉลิมฉลองต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนานเป็นพันๆ ปีมาแล้ว ในโอกาสพิเศษของการเฉลิมฉลองคริสตสมภพเรากำลังเฉลิมฉลองอะไรกันซึ่งพระวจนะได้เปิดเผยให้เราได้ทราบพอสังเขปดังนี้
(1) เรากำลังเฉลิมฉลองถึงความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อโลกและมีต่อคนบาป
คนบาปจะต้องเข้าสู่การพิพากษาของพระองค์ และเหล่าคนบาปต้องถูกผลักทิ้งลงบึงไฟนรกชั่วนิรันดร์ แต่ความรักของพระองค์เป็นพลังขับดันหนุนนำให้พระคริสต์เจ้าได้ทรงถ่อมพระทัยเสด็จลงมาบังเกิดยอมรับสภาพมนุษย์เนื้อหนังเพื่อการไถ่บาป
“4แต่เมื่อครบกำหนดแล้วพระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา ประสูติจากสตรีเพศและทรงถือกำเนิดใต้ธรรมบัญญัติ 5เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้นที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อให้เราได้รับฐานะเป็นบุตร” กาลาเทีย 4:4-5
ผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์จะได้มีสถานภาพใหม่คือการได้เป็นบุตรของพระองค์โดยความเชื่อวางใจในพระองค์ การเฉลิมฉลองเทศกาลนี้จึงเฉลิมฉลองถึงการที่เราได้หลุดพ้นจากคำแช่งสาปและมีชีวิตใหม่ในพระองค์โดยพระคุณของพระองค์
(2) เรากำลังฉลองการที่เราได้กลับคืนมาสู่อ้อมอกอันอบอุ่นในพระเป็นเจ้า
เราได้หลุดพ้นจากอำนาจของความบาปและคำแช่งสาปต่างๆ ได้มีโอกาสพักสงบในพระองค์ ผู้ที่อยู่ในพระองค์จะเป็นคนกล้าหาญเผชิญสิ่งต่างๆ ด้วยพลังและฤทธานุภาพในพระองค์
“11เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด” ลูกา 2:11
ในพระองค์ทรงเปิดอ้อมกอดอันอบอุ่นที่เราสามารถเข้าหาพระองค์ได้เสมอๆ ไป เรามักจะคุ้นกับ 24/7 คือ 24 ชั่วโมงต่อวัน และ 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีว่างเว้นแม้แต่วันเดียว
“28บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข 29จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก 30ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา” มัทธิว 11:28-30
นี่ก็เป็นพระคำตอนหนึ่งที่เราจะได้ระลึกถึงในห้วงสำคัญในเทศกาลนี้
(3) เราฉลองโอกาสแห่งการได้รับใช้พระองค์ในการที่เป็นท่อพระพรในการนำข่าวดีส่งต่อไปยังผู้อื่นจนกว่าทุกๆ คนบนโลกใบนี้จะได้กลับใจเสียใหม่
และได้มาเป็นสาวกของพระองค์ พระองค์ทรงเปิดโอกาสให้เรามีส่วนในการนำข่าวดีไปแบ่งปันส่งต่อไปยังผู้อื่น การเดินในพระองค์มีการอัศจรรย์หมายสำคัญต่างๆ ได้เกิดขึ้นอย่างมากมายเป็นโอกาสแห่งการได้นมัสการพระองค์และพาผู้อื่นให้ได้เข้ามานมัสการพระองค์เช่นเดียวกันกับเราด้วย ดังเช่นในกรณีของโหราจารย์เป็นอาทิ
“9โหราจารย์เหล่านั้น จึงไปตามรับสั่ง และดาวซึ่งเขาได้เห็นเมื่อปรากฏขึ้นนั้นก็ได้นำหน้าเขาไป จนมาหยุดอยู่เหนือสถานที่ที่กุมารอยู่นั้น 10เมื่อพวกโหราจารย์ได้เห็นดาวนั้นแล้ว ก็มีความยินดียิ่งนัก 11ครั้นเข้าไปในเรือนก็พบกุมารกับนางมารีย์มารดา จึงกราบถวายนมัสการกุมารนั้น แล้วเปิดหีบหยิบทรัพย์ของเขา ออกมาถวายแก่กุมารเป็นเครื่องบรรณาการ คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ” มัทธิว 2:9-11
เป็นต้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง มีพระวจนะตอนหนึ่งได้หนุนใจเราซึ่งเป็นคำหนุนใจจากเปาโลอัครทูตดังนี้
“1ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ และเป็นผู้อารักขาสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า 2ฝ่ายผู้อารักขาเหล่านั้นต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้ทุกคน” 1 โครินธ์ 4:1-2
ขอให้เราได้ฉวยโอกาสแห่งเทศกาลอันทรงคุณค่าและสำคัญนี้ได้ฉลองถึงความรักแท้ในองค์พระคริสต์เจ้า ได้ฉลองชีวิตอันอบอุ่นในบ้านหรือในอ้อมกอดของพระคริสต์เจ้า และให้เราได้ชวนคนอื่นๆ มาร่วมฉลองและรับพระพรในพระองค์ร่วมกันด้วย ขอพระเป็นเจ้าทรงอำนวยอวยพระพรมายังพี่น้องทุกๆ ท่านให้ได้มีสันติสุขในเทศกาลอันสำคัญนี้อย่างถ้วนหน้ากัน พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
Comments