ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พบกับศบ.
สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและเป็นโอกาสดีที่ในสัปดาห์นี้เราจะมาศึกษาถึงสถาบันแรกที่ทรงตั้งไว้สำหรับมนุษย์ทุกๆ คนซึ่งสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ที่พระองค์ได้ทรงรักอย่างสุดพระทัยของพระองค์ ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือสถาบันครอบครัวนั่นเอง ครอบครัวเป็นแหล่งแห่งพระพรเสริมสร้าง ฟูมฟัก ฝึกฝน ฯลฯ ให้สมาชิกในครอบครัวที่จะดำรงชีวิตอยู่ในโลกและสังคมอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรีและสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีและสวยงามอย่างมีความหวังได้ก็ต้องอาศัยครอบครัวนี่เอง ในพระวจนะได้สอนดังนี้ว่า
“18ฝ่ายภรรยาจงยอมฟังสามีของตน ซึ่งเป็นการสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า 19ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน และอย่ามีใจขมขื่นต่อนาง 20ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า 21ฝ่ายบิดา ก็อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ เกรงว่าเขาจะท้อใจ” โคโลสี 3:18-21
เป็นสิ่งดีที่เราจะมาทบทวนถึงบทบาทหน้าที่ของสมาชิกครอบครัวควรดำเนินชีวิตตามพระวจนะได้สอนเราไว้อย่างไร และทำไมต้องเป็นอย่างนั้นด้วย
(1) สามี
พระวจนะได้สอนให้เชื่อฟังในพระวจนะและกระทำตามด้วยความชื่นชมยินดีในฐานะของหัวหน้าหรือผู้นำครอบครัวที่ดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ก. ต้องรักภรรยาและครอบครัวตามแบบอย่างความรักขององค์พระคริสต์เจ้า
ข. ต้องเป็นผู้ที่รู้จักเสียสละ อดทนเพื่อนำครอบครัวให้ได้ไปในทางของพระคริสต์เจ้าไม่ว่าจะเป็นเวลาทุ่มเทให้ครอบครัว ประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงครอบครัว นำครอบครัวเข้าใกล้องค์พระผู้เป็นเจ้าและร่วมกันรับใช้พระองค์ ฯลฯ
ค. ต้องปกป้องครอบครัวจากภัยอันตรายต่างๆ ที่จะเข้ามาถึงครอบครัว เหล่านี้เป็นต้น
(2) ภรรยา
พระวจนะได้สอนให้มีความรับผิดชอบด้วยบทบาทหน้าที่หลากหลายมิติ เช่น
ก. การยอมฟังสามีในพระคริสต์เจ้า
ข. ปรนนิบัติดูแลเอาใจใส่ครอบครัวในพันธกิจต่างๆ ของครอบครัว
ค. การสนับสนุนสามีและครอบครัวในพันธกิจต่างๆ บริหารจัดการบ้านเรือนตนเองอย่างถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ฯลฯ
ง. สัตย์ซื่อต่อครอบครัวและร่วมกันรับใช้พระเป็นเจ้าร่วมกัน
(3) ลูกๆ
ต้องเชื่อฟังและให้เกียรติเคารพบิดามารดาหรือบุพการี ด้วยบิดามารดาได้ทำคุณูปการมากมายแก่เหล่าบุตร เลี้ยงดู ฝึกฝนสร้างชีวิต สร้างวินัยให้แก่เหล่าบุตรของตนด้วยความอุตสาหะ ให้การศึกษา คำหนุนน้ำใจและเสริมสร้างแก่บุตรของตนตามหลักของพระวจนะ ฯลฯ
“ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า” เอเฟซัส 6:4
เหล่าบุตรจึงควรที่จะ
ก. นบนอบเชื่อฟังให้เกียรติแก่บิดามารดาของตนอย่างถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ข. อุปการะเลี้ยงดูท่านตามความเหมาะสมตามควรแก่โอกาสต่างๆ
ค. ร่วมกันกับครอบครัวในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างเชื่อฟัง
“14เหตุฉะนั้น จงยำเกรงพระเจ้าและปรนนิบัติพระองค์ด้วยความจริงใจ และด้วยความซื่อสัตย์ จงทิ้งพระเหล่านั้นซึ่งบรรพบุรุษของ ท่านได้เคยปรนนิบัติที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำและในอียิปต์เสีย และท่านทั้งหลายจงปรนนิบัติพระเจ้า 15และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ใน ท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า” โยชูวา 24:14-15
โยชูวาและครอบครัวของท่านเป็นแบบอย่างอันดีแก่พวกเราในการที่จะดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของท่านด้วยหัวใจ ทุกๆ คนในครอบครัวมีบทบาทและหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัวด้วยกันทุกๆ คน สามีต้องรักครอบครัวอย่างเอาใจใส่ ภรรยาต้องทำตามแบบอย่างอันดีของสามีในพระคริสต์เจ้า และเหล่าบุตรต้องช่วยกันกับครอบครัวในการรับใช้พระองค์ร่วมกัน ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพระพรมาเหนือทุกๆ ครอบครัวถ้วนหน้ากันครับ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ