top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 8 มกราคม 2023

คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดีและขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดปรานและประทานสันติสุขในพระองค์แก่พี่น้องทุกๆ ท่านทั่วถ้วนทุกๆ คน พระวจนะของพระองค์ทรงสอนให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างคนที่ยำเกรงในพระองค์และฉลาดในการดำเนินชีวิตอย่างบูรณาการทั้งทางด้านจิตวิญญาณ จิตใจที่เข้มแข็ง ชื่นชมยินดีเสมอและฉลาดในการบริหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา ชีวิตในการใช้จ่ายทรัพย์สินสิ่งของเงินทองอย่างถวายพระเกียรติแด่พระองค์ แน่นอนในเดือนแห่งการถวายผลแรกเราก็ต้องได้รับรู้ถึงพระธรรมคำสอนเกี่ยวกับการใช้จ่ายบริหารชีวิตด้านการเงินทองทรัพย์สิน เช่น

"9จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทรัพย์สินของตน และด้วยผลแรกแห่งผลิตผลทั้งสิ้นของเจ้า 10แล้วยุ้งของเจ้าจะเต็มด้วยความอุดม และบ่อเก็บของเจ้าจะล้นด้วยเหล้าองุ่น" สุภาษิต 3:9-10

และตอนอื่นๆ อีกมากมายและคริสตจักรก็จะใช้จ่ายทรัพย์สินต่างๆ อย่างมีเป้าหมายตามที่พระคำได้สอนเช่น

ก. การเลี้ยงดูคนของพระองค์หมายถึง ปุโรหิต คนเลวี (กันดารวิถี 18:20-40, เนหมีย์ 10:37) คนงานของพระองค์ที่ได้ถวายตัวในการรับใช้พระองค์เป็นต้น

ข. เพื่อการจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ พันธกิจการงานในคริสตจักร การประกาศ การสร้างสาวก การขยายแผ่นดินของพระองค์ พันธกิจโลก ฯลฯ (เฉลยธรรมบัญญัติ 14:22-26)

ค. เพื่อเป็นกองทุนช่วยคนยากจน หญิงม่าย เด็กกำพร้า คนต่างถิ่น (เฉลยธรรมบัญญัติ 14:28-29)

ง. เพื่อพันธกิจอื่นๆ ที่สำคัญและจำเป็น พระองค์สอนให้เราคืนทศางค์ร้อยละ 10 ของรายได้ของเราคืนในพระคลังของพระองค์เป็นประจำสม่ำเสมอ (กันดารวิถี 18:26-32) ฯลฯ

ในสัปดาห์นี้จึงจะพาพี่น้องมาศึกษาถึงกุญแจหรือเคล็ดลับแห่งการถวายแห่งพระพรที่ได้ซ่อนเอาไว้อย่างน่าศึกษาดังสังเขปต่อไปนี้ คือ


(1) ท่าทีแห่งการถวายคือการขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้า


การถวายไม่ใช่ภาระที่ยุ่งยากหรือสิ่งที่ต้องฝืนใจทำตามคล้ายกับการถูกบังคับให้กระทำ พระองค์ทรงชอบพระทัยและโปรดปรานแก่ผู้ที่ถวายให้กับคลังของพระองค์ด้วยความรักและใจแห่งการโมทนาขอบพระคุณในพระองค์

"ทุกคนจงให้ตามที่เขาได้คิดหมายไว้ในใจ มิใช่ให้ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ให้ด้วยการฝืนใจ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี" 2 โครินธ์ 9:7

และการถวายของเราไม่ใช่เป็นการอวดผู้อื่นต้องเป็นความลับ

"32คนทั้งปวงที่เชื่อนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และไม่มีใครอ้างว่าสิ่งของที่ตนมีอยู่เป็นของตน แต่ทั้งหมดเป็นของกลาง 33อัครทูตจึงประกอบด้วยฤทธิ์เดชใหญ่ยิ่ง เป็นพยานว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว และพระคุณอันใหญ่ยิ่งได้อยู่กับเขาทุกคน 34เพราะว่าในพวกศิษย์ไม่มีผู้ใดขัดสน ผู้ใดมีไร่นาบ้านเรือนก็ขายเสีย 35และนำเงินค่าของที่ขายได้นั้นมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต อัครทูตจึงแจกจ่ายให้ทุกคนตามที่ต้องการ 36เป็นต้นว่าโยเซฟ ที่อัครทูตเรียกว่า บารนาบัส แปลว่าลูกแห่งการหนุนน้ำใจ เป็นพวกเลวีชาวเกาะไซปรัส" กิจการ 4:32-36

และ

"3ฝ่ายท่านทั้งหลายเมื่อทำทาน อย่าให้มือซ้ายรู้การซึ่งมือขวากระทำนั้น 4ทานของท่านจะต้องเป็นทานลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับ จะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่าน" มัทธิว 6:3-4

นี่เป็นพระวจนะที่ได้กำหนดและสอนเราในเรื่องการถวายอย่างเด่นชัดตอนหนึ่ง


(2) แรงจูงใจแห่งการถวายคือการเชื่อฟังในพระองค์


และยำเกรงต่อพระนามของพระองค์เป็นสำคัญ

"10พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์ เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่ 11เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้า และผลองุ่นในไร่นาของเจ้าจะไม่ร่วง พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ" มาลาคี 3:10-11

การเชื่อฟังและยำเกรงต่อพระนามของพระองค์จะส่งเสริมให้พันธกิจของพระองค์ได้เจริญเติบโตและขยายก้าวหน้ายิ่งยิ่งขึ้น พลังอำนาจแห่งการเงินเราปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีอยู่จริงแต่ขอให้เราได้ใช้ไปในทางสร้างสรรค์และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ไม่ใช่เพื่อจะมีเกียรติยศชื่อเสียง การมีตำแหน่งอันสูงส่งในพันธกิจการงาน ในพันธกิจในคริสตจักรของพระองค์เป็นสำคัญ


(3) ต้องมีวินัยในการใช้จ่ายทรัพย์สินสิ่งของเงินทอง


คือความมีระเบียบวินัยสม่ำเสมอและรู้จักการเสียสละ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนเราในด้านนี้ให้ถวายอย่างสัตย์ซื่อเป็นประจำสม่ำเสมอ

"ทุกวันต้นสัปดาห์ ให้พวกท่านทุกคนเก็บเงินผลประโยชน์ที่ได้รับไว้บ้าง เพื่อจะไม่ต้องเก็บเรี่ยไรเมื่อข้าพเจ้ามา" 1 โครินธ์ 16:2 และ 2 ซามูเอล 24:24 "แต่พระราชาตรัสกับอาราวนาห์ว่า “หามิได้ แต่เราจะขอเสียเงินซื้อจากท่าน เราจะถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของ เราโดยที่เราไม่เสียค่าอะไรเลยนั้นไม่ได้” ดาวิดจึงทรงซื้อลานนวดข้าวกับวัวเป็นเงินห้าสิบเชเขล"

ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่สัตย์ซื่อต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและเป็นผู้ที่มีชีวิตแห่งความมีวินัยสูงผู้ที่อุทิศถวายตนในพระองค์ก็ไม่ขาดพระพรใดใดเลยในชีวิต

คนที่เชื่อฟังและทำตามก็จะเต็มอิ่มด้วยพระพร หากไม่ต้องการเชื่อฟังในพระองค์เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถวายสิ่งต่างๆ ต่อพระองค์เลย เลือกเองตัดสินใจเองว่าจะต้องบริหารจัดการชีวิตด้านสินทรัพย์สิ่งของเงินทองของที่อยู่ในการครอบครองของเราอย่างไรดีด้วยตนเองครับผม

"พระเจ้าตรัสว่า “เครื่องบูชาอันมากมายของเจ้านั้น จะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา เราเอือมแกะตัวผู้อันเป็นเครื่องเผาบูชา และไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้นั้นแล้ว เรามิได้ปีติยินดีในเลือดของวัวผู้ หรือลูกแกะหรือแพะผู้" อิสยาห์ 1:11 และ "43พระองค์จึงทรงเรียกเหล่าสาวกมาตรัสแก่เขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าคนทั้งปวงที่ใส่ไว้นั้น 44เพราะว่าคนทั้งปวงนั้นได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ไว้ แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุด ยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด”" มาระโก 12:43-44

พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

ดู 35 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page