ขอบคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เราได้ก้าวย่างเข้ามาสู่เดือนแห่งการขอบพระคุณและสรรเสริญในพระองค์ นับเป็นพระคุณและเป็นพระพรยิ่งในเดือนนี้ พระวจนะตอนนี้สอนให้เราสรรเสริญและขอบพระคุณในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอๆ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม
“17และเมื่อท่านจะกระทำสิ่งใดด้วยวาจาหรือด้วยกายก็ตาม จงกระทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูเจ้า และขอบพระคุณพระบิดาเจ้า โดยพระองค์นั้น” โคโลสี 3:17
และยังมีตอนอื่นๆ อีกมากมายที่สอนให้เราสรรเสริญและขอบพระคุณในพระองค์ เช่น
“21ให้เขาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะความรักมั่นคงของ พระองค์ เพราะการอัศจรรย์ของพระองค์ที่มีอยู่ต่อบุตรของมนุษย์ 22และให้เขาถวายเครื่องสักการบูชาโมทนาพระคุณ และเล่าราชกิจของพระองค์ด้วยร้องเพลงอย่างชื่นบาน” สดุดี 107:21-22
และ
“8จงโมทนาพระคุณพระเจ้า และร้องทูลออกพระนามพระองค์ จงให้บรรดาพระราชกิจของพระองค์แจ้งแก่ชนชาติทั้งหลาย 9จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องเพลงสดุดีถวายพระองค์ จงเล่าถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์” 1 พงศาวดาร 16:8-9
เหล่านี้เป็นต้น การสรรเสริญและขอบพระคุณให้กระทำได้เป็นคำกล่าวสรรเสริญ คำพยานถึงสิ่งดีๆ ที่พระองค์ได้ทรงโปรดนำและอำนวยอวยพระพรมาเหนือชีวิตของเราเสมอๆ และการใช้ชีวิตของเราในการขอบพระคุณในพระองค์ด้วยชีวิตที่ได้สำแดงออกกล่าวคือการกระทำย่อมดังกว่าคำพูดซึ่งการขอบพระคุณในพระองค์ด้วยการประพฤติชีวิตที่ดีก็คือการรับใช้ในพระองค์และประกาศพระองค์แก่โลกนี้นี่เอง (สดุดี 107:21-22) คำบอกเล่าออกมาจากชีวิตไม่ว่าจะโดยทางหนึ่งทางใดก็ตามและการมีชีวิตที่สอดคล้องกับคำสอนอันมีหลักย่อมประกาศถึงความยิ่งใหญ่การทรงสถิตอยู่ด้วยและการอวยพระพรอันมากมายสู่คนของพระองค์ ชีวิตที่ขอบพระคุณย่อมถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน
“20จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา 21จงยอมฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์” เอเฟซัส 5:20-21
ชีวิตที่ดีแห่งคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะชักนำผู้คนมากมายเข้ามายังแผ่นดินของพระองค์ในที่สุด เปาโลก็ได้หนุนใจเราเช่นกันว่า
“17แต่จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงให้ครอบครองท่าน 18เมื่อท่านพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้เป็นทาสของความชอบธรรม” โรม 6:17-18
เนื่องด้วยเราคือเหล่าคนของพระองค์ เป็นบุตรของพระองค์ การขอบพระคุณในพระองค์นำมาซึ่งชีวิตแห่งความสุขและความชื่นชมยินดีในพระองค์ และการเจริญเติบโตขึ้นในพระองค์ การขอบพระคุณเป็นการใกล้ชิดสนิทสนมกับองค์พระผู้ทรงพระชนม์เป็นอยู่ ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงนำเราออกจากความมืดเข้าสู่ความสว่าง ขอบพระคุณที่ทรงสร้างและเปลี่นแปลงชีวิตของเราจากภายในออกมาสู่ภายนอกเป็นคนใหม่ในพระองค์ และเป็นเหล่าประชากรของพระองค์ ขอบพระคุณที่ทรงให้เราเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อวางใจในพระองค์ เป็นพระพรถึงชีวิตนิรันดร์ในแผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ พระพรแห่งการขอบพระคุณมีมากมายหลายหลาก เช่น
(1) นำความชื่นชมยินดีมาสู่ชีวิตของเรา
“1เมื่อพระเจ้าทรงให้ศิโยนกลับสู่สภาพดี เราก็เป็นเหมือนคนที่ฝันไป 2ปากของเราได้หัวเราะเต็มที่ และลิ้นของเราได้เปล่งเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน แล้วเขาได้พูดกันท่ามกลางประชาชาติว่า “พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เขา” 3พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เรา เรามีความยินดี” สดุดี 126:1-3
(2) นำชีวิตของเราให้ได้เจริญเติบโตขึ้นในความเชื่อในพระองค์ ในทุกๆ วันได้ เป็นการสนิทสนมและติดสนิทในพระองค์ และสำนึกในพระพรอันหลากหลายที่มีมาถึงชีวิตของเรา
“1จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงพระคุณ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” สดุดี 136:1
(3) คำขอบพระคุณบ่งบอกถึงการมองโลกในแง่ดีและมองอย่างสายพระเนตรของพระอค์ที่ได้ทรงสอนเรา เราจะมีชีวิตแห่งชัยชนะอยู่กับปัจจุบันโดยมีพระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วยเสมอไป
“10อย่าว่า “อะไรหนอเป็นเหตุให้กาลก่อนดีกว่ากาลบัดนี้” เพราะที่เจ้าไต่ถามนั้นไม่ได้ถามด้วยสติปัญญา” ปัญญาจารย์ 7:10
(4) คำขอบพระคุณสร้างชีวิตและนิสสัยที่ดีในชีวิตของเราได้เป็นเหตุให้ผู้คนได้พบกับพระองค์ผ่านชีวิตของเราได้ เปาโลสอนพวกเราผ่านชีวิตของทิโมธีดังนี้
“6จริงอยู่ เราได้รับประโยชน์มากมายจากทางของพระเจ้า พร้อมทั้งความสุขใจ 7เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้ฉันนั้น 8แต่ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้า ก็ให้เราพอใจด้วยของเหล่านั้นเถิด” 1 ทิโมธี 6:6-8
คำขอบพระคุณสร้างชีวิตให้เราสนใจและใส่ใจในชีวิตตามที่พระองค์ได้ทรงสอนจะได้ไม่ถูกชักจูงให้หลงไปจากทางของพระองค์ได้เลย
ให้ตลอดทั้งเดือนนี้เรามานมัสการพระองค์ ใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ด้วยการนมัสการและสรรเสริญในพระองค์สำหรับทุกๆ สิ่งไม่ว่าร้ายหรือดีก็ตามจะเต็มไปด้วยคำสรรเสริญและขอบพระคุณในพระองค์เสมอไป พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
Comentários