บทความโดย ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร
ศิษยาภิบาลอาวุโสคริสตจักรขอนแก่น
สรรเสริญในองค์พระผู้เป็นเจ้าเราย่างเข้ามาสู่เดือนที่หกของปี 2022 ครึ่งปีแล้วโดยพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในเดือนแห่งพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือเดือนแห่งการส่งเสริมการรวีวารศึกษา คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านสู่การนมัสการในทุกๆ รอบด้วยความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าและอย่างมีสันติสุขในพระองค์ด้วยเช่นกัน
“29พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ และโดยพระเจ้าของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงได้ 30สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์บริบูรณ์ พระสัญญาของพระเจ้า พิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์” สดุดี 18:29-30
ถ้อยคำของพระองค์บ่งบอกไว้ว่าเป็นความจริง พระสัญญาต่างๆ ล้วนถูกต้องเต็มไปด้วยพระพรเป็นประจักษ์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตก็จะเป็นเหมือนๆ กัน และในพระธรรมตอนนี้เช่นกัน
“7กฎหมายของพระเจ้ารอบคอบ และฟื้นฟูจิตวิญญาณ กฎเกณฑ์ของพระเจ้านั้นแน่นอน กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา 8ข้อบังคับของพระเจ้านั้นถูกต้อง กระทำให้จิตใจเปรมปรีดิ์ พระบัญญัติของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์ กระทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง” สดุดี 19:7-8
พระวจนะเป็นพระพรเสริมสร้างชีวิตผู้คนมากมายในการดำเนินชีวิตในโลกนี้อย่างมีความสุขและมีคุณค่ายิ่ง
“น่าปรารถนามากกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองนพคุณมากนัก หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง ที่หยดลงจากรวง” สดุดี 19:10
และเยเรมีย์ก็สอนเราเช่นกันว่า
“29พระเจ้าตรัสว่า ถ้อยคำของเราไม่เหมือนไฟหรือ หรือเหมือนค้อนที่ทุบหินให้แตกเป็นชิ้นๆ 30พระเจ้าตรัสว่า “เพราะฉะนั้น ดูเถิด เราต่อสู้กับบรรดาผู้เผยพระวจนะ ผู้ขโมยถ้อยคำของเราจากกันและกัน” เยเรมีย์ 23:29-30
พระคำพระองค์จึงเต็มไปด้วยพระพรอันมากมายและหลายหลากด้านที่เราควรจะศึกษาโดยสังเขปดังนี้
(1) พระวจนะสอนเราและเปิดเผยความจริงต่างๆ ให้มนุษย์ได้รับรู้
เรียนรู้ เรียนการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีเป้าหมายดังเช่นในพระธรรมฮีบรู
“1ในโบราณกาลพระเจ้าได้ตรัสด้วยวิธีต่างๆมากมายแก่บรรพบุรุษของเราทางพวกผู้เผยพระวจนะ 2แต่ในวาระสุดท้ายนี้พระองค์ได้ตรัสแก่เราทั้งหลายทางพระบุตร ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งให้เป็นผู้รับสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นมรดก พระองค์ได้ทรงสร้างกัลปจักรวาลโดยพระบุตร 3พระบุตรทรงเป็นแสงสะท้อนพระสิริของพระเจ้า และทรงมีสภาวะเป็นพิมพ์เดียวกันกับพระองค์ และทรงผดุงโลกไว้ด้วยพระดำรัสอันทรงฤทธิ์ของพระองค์ เมื่อพระองค์ได้ทรงชำระบาปแล้ว ก็ได้ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าเบื้องบน 4พระองค์ทรงยิ่งใหญ่เหนือเหล่าทูตสวรรค์มากนัก ด้วยว่าพระองค์ทรงพระนามที่ประเสริฐกว่านามของทูตสวรรค์” ฮีบรู 1:1-4
พระวจนะได้เปิดเผยถึงการทรงสร้างโลก ความเป็นไปของโลก ความบาป และการทรงไถ่บาปของพระองค์ องค์พระเยซูคริสต์คือพระเมสสิยาห์ของโลกนี้ ผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์ก็จะมีชีวิตนิรันดร์
(2) พระวจนะจะฝึกฝน สอน เสริมสร้างหรือชี้ทางออก
บอกทางที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิตที่ถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแก่เรา
“16พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม 17เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” 2 ทิโมธี 3:16-17
สิ่งที่ควรกระทำและสิ่งที่ไม่ควรกระทำหรือไม่ถูกต้องมากมายพระวจนะเป็นมาตรฐานหรือกฎหมาย กฎกติกาในการดำเนินชีวิตแก่นแท้ของชีวิต พระวจนะจะสร้างชีวิตถึงระดับจิตสำนึกคุณธรรม แม้กระทั่งการจัดการบริหารจิตใต้สำนึกของผู้คนโดยพระวจนะที่มีฤทธิ์อำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้า
(3) พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าฟื้นฟูชีวิตให้กลับสู่สภาพดีที่ควรจะเป็น
จิตวิญญาณที่ท้อถอย ห่อเหี่ยวสามารถกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งหนึ่ง
“แม้ข้าพระองค์เดินอยู่กลางความลำบากยากเย็น พระองค์ทรงสงวนชีวิตข้าพระองค์ไว้ พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ของพระองค์ออกต่อต้าน ความพิโรธของศัตรูของข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็ช่วยกู้ข้าพระองค์” สดุดี 138:7
หรือแม้หากล้มลงในความบาปผิดต่างๆ พระองค์ก็สามารถนำเรากลับมาสู่สภาพที่ดีที่ควรจะเป็นได้โดยความรักและพระคุณอันล้นพ้นในพระองค์ได้เสมอๆ
“7ขอทรงชำระข้าพระองค์ด้วยต้นหุสบ ข้าพระองค์จึงจะสะอาด ขอทรงล้างข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ 8ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ได้ยินความ ชื่นบานและความยินดี ขอกระดูกซึ่งพระองค์ทรงหักนั้นเปรมปรีดิ์ , 12ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดแก่ข้าพระองค์ และชูข้าพระองค์ไว้ด้วยเต็มพระทัย” สดุดี 51:7-8,12
พระวจนะตอนนี้หนุนใจเราให้เดินตามพระวจนะของพระองค์ รับความชื่นบานในพระองค์ได้เสมอๆ ตลอดไป
(4) พระวจนะสอนและเตรียมชีวิตของเราให้ได้รับใช้พระองค์อย่างมีความสุขเกิดผลและเป็นพระพรเสมอ
ผู้ที่ยำเกรงและรับใช้พระองค์ชีวิตจะมีพระพรและเต็มไปด้วยพระพรเสมอๆ
“แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหา” ฮีบรู 11:6
การรับใช้พระองค์คือการแบ่งปันพระพรชีวิตในพระองค์แก่ผู้อื่น นำผู้อื่นมาถึงพระคุณ พระพรในพระองค์
“จงไปยืนในบริเวณพระวิหาร ประกาศบรรดาข้อความแห่งชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟัง” กิจการ 5:20
ชีวิตที่กลับใจเสียใหม่ แบกกางเขนตามพระองค์ไปเป็นชีวิตที่สามารถชัยชนะเหนืออุปสรรคและปัญหาต่างๆ โดยฤทธาแห่งพระวจนะในพระวิญญาณบริสุทธิ์อันนำไปสู่ความชื่นชมยินดีและสันติสุขในพระองค์
ขอให้พวกเราศึกษาพระวจนะโดยการอ่าน ฟังพระวจนะ ค้นคว้าในพระวจนะ เชื่อฟังในพระวจนะ ถ่ายทอดสอนพระวจนะ แบ่งปันพระคำจากชีวิตของเราไปสู่ผู้อื่นไม่ว่าจะโดยทางอ้อมหรือทางตรงก็ตาม
“เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกต่างชาติด้วย” โรม 1:16
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอำนวยอวยพระพรมาเหนือพี่น้องทุกๆ ท่านถ้วนหน้ากัน พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม
Comments