top of page

พบกับ ศบ. ฉบับวันที่ 3 ตุลาคม 2021

ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พบกับศบ.

คริสตจักรขอนแก่นยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆ ท่านเข้าสู่การนมัสการในเดือนแห่งการเสริมสร้างพัฒนาชีวิตแห่งครอบครัวคริสเตียน

และพัฒนาเสริมสร้างชีวิตของผู้นำคริสเตียนควบคู่กันไป


ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญทั้งสองอย่างสำหรับพระกายของพระคริสต์เจ้า คือ คริสตจักรของพระองค์นั่นเอง ในสัปดาห์นี้อยากจะกล่าวถึงเรื่องผู้นำคริสเตียนก่อน และจะกล่าวสลับกันไปกับเรื่องครอบครัวตลอดทั้งเดือนตุลาคม 2021 นี้ครับ เรามาศึกษาถึงเรื่องผู้นำคริสเตียนกันก่อนในสัปดาห์นี้ ผู้นำคริสเตียนมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์หรือมีลักษณะพิเศษยิ่งของชีวิตโดยสังเขปดังนี้คือ


(1) เป็นคนที่รัก สัตย์ซื่อ เชื่อวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดหัวใจของเขา

เช่น เปโตรในพระธรรมยอห์นได้บันทึกไว้ว่า “เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ” เขาทูลพระองค์ว่า “เป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”” ยอห์น 21:15 เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นและสำคัญยิ่งนักคือรักพระองค์และปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดชีวิต สุดหัวใจของเขา อยากพาพี่น้องมาทบทวน

ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์” สดุดี 27:4

ซึ่งก็ได้เตือนให้เราที่จะอยู่ใกล้ชิดพระองค์เสมอๆ ผู้นำจะเรียนจากพระคริสต์เจ้า และเลียนแบบการรับใช้ การนำคนของพระองค์ตามแบบฉบับของพระองค์นั่นเอง ผู้นำคริสเตียนจึงต้องรักพระเป็นเจ้าสุดชีวิตสุดหัวใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

(2) เป็นผู้ที่ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกด้วยพระองค์เอง

ผ่านกระบวนการและยุทธวิธีต่างๆ ของพระองค์รวมทั้งการฝึกฝนก่อนการได้รับใช้พระองค์อย่างเต็มรูปแบบ “ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านไปเกิดผล และเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะได้ประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน” ยอห์น 15:16 นี่เป็นพระวจนะตอนหนึ่งที่บ่งบอกถึงการที่พระองค์ทรงเลือกและแต่งตั้งผู้นำคริสเตียนด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ ทรงใส่ภาระใจในการรับใช้ ใส่นิมิตในการรับใช้ลงไปในชีวิต เฉกเช่นกับอิสยาห์เคยกล่าวไว้ว่า

และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด”” อิสยาห์ 6:8

ผู้นำคริสเตียนจะร้อนรนและกรือตือรือร้นในการที่จะกระทำในสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดปรานและชอบพระทัยเป็นสำคัญ แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของตนเองก็ตามที

(3) ผู้นำคริสเตียนมีพลวัตไม่หยุดนิ่ง พัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตขึ้นอยู่เสมอ

ความรู้ทางด้านศาสนศาสตร์ โลกทัศน์ เทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ กฎหมาย ฯลฯ ผู้นำคริสเตียนใส่ใจในการรับใช้ให้เจริญก้าวหน้าพร้อมกับการเรียนรู้เสมอๆ ความล้มเหลวและอุปสรรคเป็นครูเป็นอุปกรณ์ในการที่จะก้าวหน้าลึกล้ำในการรับใช้พระองค์ เปาโลเคยหนุนใจเราว่า “7ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว 8ต่อแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็จมาของพระองค์” 2 ทิโมธี 4:7-8 และพระวจนะตอนหนึ่งกล่าวว่า “แต่ขอท่านทั้งหลายจงเจริญขึ้นในพระคุณและในความรู้ ซึ่งมาจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ทั้งในปัจจุบันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน” 2 เปโตร 3:18 ผู้นำต้องใส่ใจปรับปรุงตนเองอยู่เสมอด้วยความถ่อม ใจ เรียนรู้จากพระคำ จากผู้รู้และอื่นๆ อีกมากมายอย่างไม่มีวันจบสิ้น

(4) ผู้นำคริสเตียนนำผู้คนด้วยชีวิตที่เป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น

และด้วยความรัก และเอาใจใส่ต่อพันธกิจที่ได้รับมอบหมาย แน่นอนผู้นำมีสิทธิอำนาจ เขาจะเรียนรู้ใช้สิ่งเหล่านั้นอย่างเหมาะสมและถูกต้องโดยอาศัยความรักอย่างพระคริสต์เจ้าเป็นสำคัญ แบ่งปันพันธกิจ เทศนาสั่งสอนพระวจนะอย่างเอาใจใส่ ฟังเสียงของทุกๆ คนในพระกายของพระคริสต์เจ้า “ให้พี่น้องที่ต่ำต้อยโอ้อวดในการที่พระเจ้าทรงเชิดชูเขา” ยากอบ 1:9 เปาโลจึงกล่าวว่า “เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทำตามอย่างข้าพเจ้า, ท่านทั้งหลายก็จงปฏิบัติตามอย่างข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามอย่างพระคริสต์” 1 โครินธ์ 4:16 และ 1 โครินธ์ 11:1 ท่าทีและการรับใช้ทั้งปวงล้วนประกาศพระคริสต์เจ้า นำผู้คนเข้าถึงพระพรในพระองค์ เราคงจำพระวจนะตอนนี้ได้ดีว่า

พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า 'ดีแล้วเจ้าเป็นทาสที่ดี เพราะเจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อยเจ้าจงมีอำนาจครอบครองสิบเมืองเถิด'” ลูกา 19:17

สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งเสริมและหนุนน้ำใจเหล่าผู้นำคริสเตียนทั้งปวงในการรับใช้พระองค์อย่างเกิดผลเป็นพระพรอย่างสุดกำลัง

สิ่งที่ขับเคลื่อนในการรับใช้ในฐานะผู้นำคริสเตียนคือความรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าสุดหัวใจ รับการเสริมสร้างฝึกฝนจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอไป นำผู้คนด้วยนิมิตชีวิตที่เป็นแบบอย่างอันดี แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

Comments


bottom of page