top of page

พบกับ ศบ. ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม 2021

ในการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องพบกันอุปสรรคปัญหาต่างๆ อย่างมากมาย โดยเฉพาะในยุคนี้เราต้องเผชิญกับภัยร้ายจากโรคระบาดโควิด19 ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผู้คนอย่างมากมายอย่างสุดที่จะเข้าใจและบรรยายได้อย่างครบถ้วน ในชีวิตประจำวันของเราเองก็ดี ในคริสตจักรของเราก็ดีต่างต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาและการแก้ไขอยู่เนืองๆ เราจะมาศึกษาถึงพระวจนะตอนหนึ่งที่แนะนำแนวทางในการที่จะผ่อนคลายออกจากปัญหาต่างๆ ของคริสตจักรในยุกแรกๆ ดังนี้

1ในคราวนั้นเมื่อศิษย์กำลังทวีมากขึ้น พวกนิยมกรีกบ่นติเตียนพวกฮีบรูว่า ในการแจกทานทุกๆวันนั้น เขาเว้นไม่ได้แจกให้พวกแม่ม่ายชาวกรีก 2ฝ่ายอัครทูตทั้งสิบสองคนจึงเรียกบรรดาศิษย์ให้ประชุมกัน แล้วกล่าวว่า “ซึ่งเราจะละเลยพระวจนะของพระเจ้า มัวไปแจกอาหารก็หาควรไม่ 3เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายจงเลือกเจ็ดคนในพวกท่าน ที่มีชื่อเสียงดีประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และสติปัญญา เราจะตั้งเขาให้ดูแลการงานนี้ 4ฝ่ายพวกเราจะขะมักเขม้นอธิษฐาน และรับใช้พระเจ้าในพันธกิจแห่งพระวจนะเสมอไป” 5คนทั้งหลายเห็นชอบกับคำนี้ จึงเลือกสเทเฟนผู้ประกอบด้วยความเชื่อและพระวิญญาณบริสุทธิ์ กับฟีลิป โปรโครัส นิคาโนร์ ทิโมน ปารเมนัส และนิโคเลาส์ชาวเมืองอันทิโอกซึ่งเป็นผู้เข้าจารีตฝ่ายศาสนายิว 6คนทั้งเจ็ดนี้เขาให้มายืนต่อหน้าพวกอัครทูต แล้วพวกอัครทูตก็อธิษฐานและวางมือบนเขา 7การประกาศพระวจนะของพระเจ้าได้เจริญขึ้น และจำพวกศิษย์ก็ทวีขึ้นเป็นอันมากในกรุงเยรูซาเล็ม และพวกปุโรหิตเป็นอันมากก็ได้เชื่อในพระศาสนา” กิจการ 6:1-7

จากพระธรรมตอนนี้เบื้องต้นเราควรจะมองว่าปัญหาต่างๆ เป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นกับคนของพระองค์เพื่อวัตถุประสงค์หรือน้ำพระทัยที่จะทรงสำแดงออกผ่านสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี เมื่อปัญหาผ่านไปก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นซึ่งเราค่อนข้างคุ้นเคยคือวิกฤติต่างๆ ในชีวิตของคนเราคือโอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง เมื่อมีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นเราควรจะจัดการอย่างไร

(1) พึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยการแสวงหาในพระคำ

โดยการอธิษฐานโดยความเชื่อในพระคุณของพระองค์ ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระองค์ทุกสิ่งเป็นไปได้โดยเฉพาะ

“เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” โรม 8:28

ในพระองค์มีทางออกจากอุปสรรคและปัญหาต่างๆ เสมอๆ การเข้าใกล้พระองค์ เราจะได้รับการปลอบโยน คำแนะนำ คำเสริมสร้าง ภาระที่หนักๆ ก็จะคลี่คลายลงได้อย่างอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เราคงจำได้ถึงพระวจนะในตอนนี้คือ “6ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช” 7เพื่อการปกครองของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้น และสันติภาพจะไม่มีที่สิ้นสุด เหนือพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ ที่จะสถาปนาไว้ และเชิดชูไว้ ด้วยความยุติธรรมและด้วยความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล ความกระตือรือร้นของพระเจ้าจอมโยธาจะกระทำการนี้” อิสยาห์ 9:6-7 เข้าใกล้พระองค์ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ทรงเป็นจอมกษัตริย์ และทรงสถิตอยู่กับเราเสมอไป

(2) แก้ปัญหาภาระต่างๆ ด้วยแบบอย่างของความรักของพระองค์

ความรักของพระองค์มหัศจรรย์และไม่มีวันหมดสิ้นไปได้ คงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล

“ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด” 1 โครินธ์ 13:13

ความรักนำไปสู่การแสวงหาพระองค์เป็นที่ตั้งและมองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของผู้อื่นเสมือนของเราเองด้วยนำไปสู่การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เข้าใจและเห็นใจในผู้อื่นดุจดังตนเอง แท้จริงความรักอย่างพระองค์คือการได้รับใช้พระองค์ และประกาศพระองค์แก่โลกนั่นเอง

“34เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น 35ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา” ยอห์น 13:34-35

ความรักของพระองค์แก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ ผ่อนคลายร้อนให้เป็นเย็น ความวุ่นวายสู่สันติสุขในพระองค์ได้เป็นอย่างดี

(3) เข้าถึงแก่นแท้ของปัญหาคืออะไร

เหตุแห่งปัญหา สติปัญญาจากพระองค์จะนำเราเข้าถึงแก่นของปัญหา ระบุถึงสิ่งนั้นคืออะไร อะไรเป็นปัญหา แท้จริงปัญหาเกิดขึ้นเพื่อสอนและอนุญาตให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ การไว้วางใจในพระองค์ ความเชื่อในพระองค์จะนำเราทะลุทะลวงปัญหาเหล่านั้นไปได้ ใช้คำถามในการแก้ไขปัญหาถึงใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และทำไมเข้ามาเสริม พระวจนะสอนเราว่า

“เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งการวุ่นวาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุข ตามที่ปฏิบัติกันอยู่ในคริสตจักรแห่งธรรมิกชนนั้น” 1 โครินธ์ 14:33

จัดทุกๆ สิ่งให้เข้าที่อย่างเป็นระเบียบถวายพระเกียรติแด่พระองค์เป็นสำคัญ “แต่จงปฏิบัติทุกสิ่งตามระเบียบวินัยเถิด” 1 โครินธ์ 14:40 และ “ข้าพเจ้ากำชับท่านต่อพระพักตร์พระเจ้า พระเยซูคริสต์ และเหล่าทูตสวรรค์ที่ทรงเลือกไว้แล้วนั้น ให้ท่านรักษาระเบียบเหล่านี้ไว้โดยไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด และไม่กระทำการใดๆด้วยใจลำเอียง” 1 ทิโมธี 5:21

(4) เจริญเติบโตขึ้นในพระองค์

ปัญหาคือโอกาสแห่งการเรียนรู้และได้พัฒนาชีวิตและตนเองให้ได้เจริญขึ้น มองไปในอดีตและเรียนรู้ อยู่กับพระองค์ในปัจจุบันและก้าวไปในอนาคตที่เราจะเข้มแข็ง เติบโต มั่นคง และเกิดผลมากกว่าในปัจจุบัน บั้นปลายชีวิตของเราทุกๆ คนคือการกลับสู่อ้อมอกอันอบอุ่นในพระองค์ ชีวิตของเราเป็นของพระองค์ โลกนี้และพันธกิจต้างๆ ล้วนแต่เป็นของพระองค์ การแก้ไขปัญหาต่างๆ ก็เพื่อเราจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์มากยิ่งขึ้น ประกาศพระนามของพระองค์ได้กว้างไกลมากขึ้น เราคงจำได้ถึงคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า

“15แต่ให้เรายึดความจริงด้วยใจรัก เพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ คือพระคริสต์ 16คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและประสานกันโดยทุกๆข้อต่อที่ทรงประทาน ได้จำเริญเติบโตขึ้นด้วยความรัก เมื่ออวัยวะทุกอย่างทำงานตามความเหมาะสมแล้ว” เอเฟซัส 4:15-16

ปัญหาภาระต่างๆ แก้ไขเสมอโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า เข้าใกล้พระองค์เสมอๆ ในการอธิษฐาน ใช้วิธีการของพระองค์ในการแก้ไขคือพระคุณและความรักของพระองค์เป็นสำคัญ อาศัยสติปัญญาของพระองค์ในการเข้าถึงแก่นของปัญหาและจัดการโดยฤทธานุภาพในพระองค์ และปัญหาคือโอกาสแห่งการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเจริญขึ้นในพระองค์ร่วมกันอย่างถวายพระเกียรติแด่พระองค์ทั้งในอดีต ในปัจจุบัน และในอนาคตด้วย พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม

Comments


bottom of page