พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส
แท้จริงแล้วการประกาศข่าวประเสริฐและการสร้างสาวกเป็นหัวใจของคริตจักรขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า เป็นการส่งข่าวสารแห่งการรอดพ้นความบาปผิดหลุดพ้นจากการพิพากษาสู่บึงไฟนรกเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ได้โดยทางองค์พระเยซูคริสต์เจ้า โดยพลังแห่งการขับเคลื่อนข่าวประเสริฐมาจากพลังแห่งความรักแท้ในองค์พระผู้เป็นเจ้า และการออกทำการของพระองค์เป็นพระประสงค์และน้ำพระทัยอันยอดเยี่ยมขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าอย่างแน่นอน
ผู้ที่รักพระองค์ผู้ที่พระองค์ทรงรักจะใส่ใจในพันธกิจนี้ด้วยความทุ่มเทและเอาใจใส่เป็นที่ยิ่ง
เป็นการตอบสนองต่อพระมหาบัญชาอย่างมีความรับผิดชอบเป็นอย่างสูง
“9คือว่าถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่า
พระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด
10ด้วยว่า ความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับสัจจะของพระเจ้าด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด
11เพราะมีข้อพระคัมภีร์ว่า ผู้หนึ่งผู้ใดที่เชื่อในพระองค์จะไม่ได้รับความอับอาย”
โรม 10:9-11
พระวจนะที่หยิบยกมานี้ได้สอนเราว่าเพียงแต่เชื่อด้วยใจรับด้วยปากในองค์พระคริสต์เจ้าก็จะได้รับความรอดอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง
หัวใจแห่งนักประกาศมาจากความห่วงใยต่อดวงวิญญาณที่ยังจมอยู่ในความบาปผิดหรือผู้หลงหายไปใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากลำบากและบั้นปลายชีวิตคือบึงไฟนรกชั่วนิรันดร์กาล ผู้คนที่หลงหายไปดูภายนอกเหมือนจะมีความสุขดีในชีวิตอาจจะมั่งมีเงินทองเกียรติยศชื่อเสียง การศึกษาดี ฯลฯ แต่ลึกๆ
ลงไปในฝ่ายจิตวิญญาณเหี่ยวแห้ง ว้าเหว่ แห้งแล้ง ขาดสันติสุขในชีวิตอย่างหาที่เปรียบมิได้ ผู้ที่สามารถเติมชีวิตส่วนที่หายไปได้อย่างแท้จริงและครบบริบูรณ์คือองค์พระเยซูคริสต์เจ้าแต่เพียงผู้เดียว
“16แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา
แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว”
ยอห์น 10:16
การประกาศข่าวประเสริฐเป็นการแบ่งปันความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกว้างขวางแก่คนบาปและผู้หลงหายไปให้ได้กลับมาพักสงบ
ในองค์พระผู้เป็นเจ้าสู่การหายเหนื่อยเป็นสุข เราก็คุ้นเคยดีกับพระวจนะในข้อนี้ คือ
“28บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข”
มัทธิว 11:28
คนที่มีหัวใจเช่นนี้แน่นอนจะถูกฝึกฝนสร้างให้เป็นคนที่พร้อมจะรับใช้พระองค์ดังพระวจนะได้สอนเราดังนี้ว่า
“11ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์
12เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น”
เอเฟซัส 4:11-12
พระองค์ทรงใช้คนของพระองค์ พระกายคือคริสตจักรของพระองค์และสิ่งต่างๆ ในการเสริมสร้างและพัฒนาคนของพระองค์สู่พันธกิจอันสำคัญยิ่งนี้
มาช่วยกันรับใช้โดยการเริ่มต้นอย่างง่ายๆ
(ก) เริ่มด้วยการอธิษฐานเผื่อผู้คนที่ยังไม่ได้กลับใจเสียใหม่ให้ได้มาพบกับพระองค์และได้เชื่อวางใจในพระองค์เหมือนๆ กับที่พวกเราได้รับชีวิตใหม่ในพระองค์แล้ว “44ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา จะทรงชักนำให้เขามาและเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย” ยอห์น 6:44 องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นแบบอย่างในการอธิษฐานเพื่อนำผู้คนให้ได้มาพบกับพระองค์
(ข) คนงานของพระองค์คือทุกๆ คนที่ได้เชื่อวางใจในพระองค์แล้ว ทุกๆ คน ผู้เป็นเสมือนความสว่างและเกลือแห่งแผ่นดินโลกแล้วได้ทำหน้าที่ของเกลือและความสว่างอย่างร้อนรนและเอาใจใส่เป็นอย่างดี “1จงลุกขึ้น ฉายแสง เพราะว่าความสว่างของเจ้ามาแล้ว และพระสิริของพระเจ้าขึ้นมาเหนือเจ้า”
อิสยาห์ 60:1
(ค) ลงมือวางแผนที่จะเชิญผู้คนที่เรารักและรักเรามาร่วมนมัสการที่คริสตจักร ที่กลุ่มเซล ออกไปเยี่ยม ฯลฯ ความรักต่อดวงวิญญาณที่หลงหายไปต้องลงมือกระทำเป็นรูปธรรมวันนี้ วันต่อไปหรือพรุ่งนี้ก็จะสายเกินแก้ ฉวยโอกาสทำพันธกิจในการประกาศสร้างสาวกวันนี้สำคัญยิ่ง
ในพระธรรมเอเฟซัส 5:16 สอนเราว่า “16จงฉวยโอกาส เพราะว่าทุกวันนี้เป็นกาลที่ชั่ว”
ขอสติปัญญาจากพระองค์ในการทำพันธกิจนี้
“5จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส” โคโลสี 4:5
ออกไปยังชุมชน เมือง ตำบล ประเทศต่างๆ ไปด้วยตัวเอง ส่งคนผู้แทนออกไป ส่งคำอธิษฐาน ส่งเงินสนับสนุนพันธกิจโลก ฯลฯ การเกิดผลเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า คนที่อยู่ในพระองค์จะมีชีวิตใหม่
“17เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” 2 โครินธ์ 5:17
และชีวิตเช่นว่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อคนของพระองค์ลุกขึ้นทำการนี้ด้วยใจร้อนรนนั่นเอง
“18ทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกัน
19คือพระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกันกับพระองค์โดยพระคริสต์ มิได้ทรงถือโทษในการผิดของเขา และทรงมอบเรื่องการคืนดีกันนั้นให้เราประกาศ”
2 โครินธ์ 5:18-19 อาเมน
การประกาศข่าวประเสริฐมาจากความห่วงใยต่อดวงวิญญาณที่หลงหายไปและพลังที่สร้างแรงเหวี่ยงให้การทำพันธกิจนี้ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าคือความรักในองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีอำนาจทะลุทะลวงกำแพงต่างๆ ทุกๆ คนทุกๆ คริสตจักรต้องร่วมพลังกันในการเป็นเกลือและความสว่างของโลกนี้ ต้องทำวันนี้อย่างไม่ล่าช้าและมอบทุกๆ สิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ขอพระเป็นเจ้าทรงอวยพระพรทุกๆ ท่านและพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม “
1ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอให้ท่านคำนึงถึงข่าวประเสริฐ ที่ข้าพเจ้าเคยประกาศแก่ท่านทั้งหลาย
ซึ่งท่านได้ยอมรับไว้ อันเป็นฐานซึ่งท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่
2และซึ่งจะทำให้ท่านรอด ถ้าท่านยังยึดตามหลักคำสอนที่ข้าพเจ้าได้ประกาศนั้น เว้นเสียแต่ท่านได้เชื่อเฉยๆ”
1 โครินธ์ 15:1-2 อาเมน อาเมน และอาเมน
Comments