top of page

บทความจากศิษยาภิบาล ฉบับวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2022

บทความจากศิษยาภิบาลคริสตจักรขอนแก่น ศจ.ดร.วัฒนา พรหมโคตร

พระธรรมโอวาทขององค์พระผู้เป็นเจ้าสอนให้เราทั้งหลายรักษาตัวเองหรือดำรงตนให้ได้อยู่ในความรักของพระองค์อย่างมั่นคงนั้นมีมากมายหลากหลายตอน หนึ่งในนั้นที่น่าสนใจคือ

“จงรักษาตัวไว้ให้ดำรงในความรักของพระเจ้า คอยพระกรุณาของพระเยซูคริสตเจ้าของเราจนกว่าจะได้ชีวิตนิรันดร์ 22และจงชักชวนคนที่ยังสงสัยอยู่ให้เขาเชื่อ” ยูดาห์ 1:21

ซึ่งสอนให้เราใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและยำเกรงในพระองค์จนกว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าจะเสด็จกลับมารับเราไปอยู่กับพระองค์หรือจนกว่าเราจะจากโลกนี้ไปอยู่กับพระองค์แล้วแต่อย่างใดจะมาถึงชีวิตของเราก่อนนั่นเอง แต่ก็อาจจะมีคำถามว่าต้องทำอย่างไรหรือต้องดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะสอดคล้องกับพระวจนะของพระองค์ ซึ่งพระวจนะอีกหนึ่งตอนที่คอยย้ำเตือนก็ได้ปรากฏในพระธรรมมัทธิวดังนี้

ซึ่งจะนำข้อพระวจนะในตอนเหล่านี้นำมาศึกษาเพื่อการปฏิบัติตามพระวจนะของพระองค์ร่วมกันดังนี้โดยสังเขป คือชีวิตที่สำแดงว่าเราดำรงตน ดำเนินชีวิตในความรักของพระองค์นั้นคือคนอย่างไร

(1) คนที่อยู่ในความรักของพระองค์จะเป็นผู้ที่เชื่อฟังในพระองค์เจ้าอย่างสุดหัวใจ

การเชื่อฟังในพระองค์เป็นการสำแดงออกที่เป็นรูปธรรมถึงความรัก ความกตัญญูที่ตอบสนองต่อความรักของพระองค์ ซามูเอลก็ได้สอนเราว่า “และซามูเอลกล่าวว่า “พระเจ้าทรงพอพระทัยในเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชามากเท่ากับการที่จะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์หรือ ดูเถิด ที่จะเชื่อฟังก็ดีกว่าเครื่องสัตวบูชา และซึ่งจะสดับฟังก็ดีกว่าไขมันของบรรดาแกะผู้” 1 ซามูเอล 15:22 และพระวจนะได้ยกย่องคริสเตียนชาวกรุงโรมว่าเชื่อฟังในพระองค์ ว่าเป็นความรักที่สำแดงออกและประกาศพระนาของพระองค์แก่โลกนี้อย่างเป็นประจักษ์แล้ว “การซึ่งท่านทั้งหลายได้เชื่อฟังก็เลื่องลือไปถึงหูคนทั้งปวงแล้ว ข้าพเจ้าจึงมีความยินดีเพราะท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านเชี่ยวชาญในการดี และให้เป็นคนทึ่มในการชั่ว” โรม 16:19 และการเชื่อฟังนี่เองก็ได้นำพระพรมากมายหลายหลากไปสู่ตระกูลของดาวิดดังบันทึกไว้ในพระธรรมตอนหนึ่งว่าดังนี้ “เกี่ยวด้วยพระนิเวศนี้ซึ่งเจ้าสร้างอยู่ ถ้าเจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และเชื่อฟังกฎหมายของเรา และรักษาบัญญัติของเราทั้งสิ้น และดำเนินตาม เราก็จะสถาปนาถ้อยคำของเรากับเจ้า ซึ่งเราพูดกับดาวิดบิดาของเจ้า” 1 พงศ์กษัตริย์ 6:12

(2) คนที่อยู่ในความรักของพระองค์ย่อมเป็นคนที่มีความอดทนสูงต่อความทุกข์ยากลำบากต่าง

แท้จริงองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้กระบวนการแห่งความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ในการหล่อหลอมสร้างลักษณะชีวิตของผู้เชื่อให้เหมือนกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ความทุกข์จะต่อเติมเสริมสร้างพัฒนาชีวิตของเราให้ได้เจริญขึ้นสู่ความไพบูลย์ในพระองค์ เปาโล เปโตร เป็นอาทิ แม้แต่โมเสสเองก็ถูกหล่อหลอมและพัฒาชีวิตในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี ภายหลังจึงได้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอีก 40 ปีเต็ม พระธรรมยากอบสอนเราดังนี้ “2ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี 3เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง 4และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย” ยากอบ 1:2-4 ความรักแท้สร้างเราให้เป็นผู้ที่อดทนหลายคนมักจะเปรียบเทียบกับเพชรอย่างน่าฟังว่า “แพ้เป็นเพียงถ่าน ผ่านจึงเป็นเพชร” เพชรเม็ดงามเกิดจากความร้อนที่สูงและแรงบีบอัดมหาศาล ผลบั้นปลายก็กลับกลายเป็นเพชรเม็ดงามนั่นเอง รักพระคริสต์เจ้าที่แท้จริงสร้างเสริมความอดกลั้น อดทนในชีวิตของเรา

(3) คนที่รักพระองค์ก็มีใจปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์เสมอ

ไม่ว่าจะโดยการอธิษฐาน การนมัสการ หรือการได้อยู่สามัคคีธรรมกับคนของพระองค์ ซึ่งก็คือพระกายของพระองค์หรือคริสตจักรของพระองค์นั่นเอง เราต้องชอบพระวจนะในตอนนี้อย่างแน่นอน “ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์” สดุดี 27:4 และอีกตอนหนึ่งก็หนุนใจเราว่า “6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์” ฟิลิปปี 4:6-7 การได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารักและรักเราย่อมก่อให้เกิดสันติสุขความปลอดภัยและได้รับการบำรุงเลี้ยง ปกป้องจากพระองค์นั่นเอง

(4) คนที่รักพระองค์ย่อมประกาศพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยความสัตย์ซื่อและยำเกรงต่อพระนามของพระองค์เสมอไป

รักแท้ย่อมแบ่งปันพระพรของพระองค์แก่ผู้อื่นด้วยใจกว้างขวาง องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงสั่งสอนเราว่า “7จงไปพลางประกาศพลางว่า 'แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว' 8จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย คนตายแล้วให้ฟื้น คนโรคเรื้อนให้หายสะอาด และจงขับผีให้ออก ท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ จงให้เปล่าๆ” มัทธิว 10:7-8 ความรอดและพระพรต่างๆ เป็นสิ่งที่เราต้องนำไปสู่ผู้อื่นด้วยความกระตือรือร้นร้อนรนและอย่างเอาใจใส่ พระวจนะอีกตอนเตือนสติเราว่า “15ฝ่ายพระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกว่า “เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน 16ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ” มาะโก 16:15-16 เราต้องมีหัวใจแห่งความรักอย่างพระองค์เจ้า กล่าวคือรักคนของโลกนี้ และพาคนแห่งโลกนี้เข้ามาพบกับพระคริสต์เจ้าแหล่งแห่งความรัก และพระพรอันจริงแท้ที่ไม่มีวันหมดสิ้นไปได้เลย เราต้องพาคนที่รักเราและเรารักนั้นเข้าพบกับพระองค์ผ่านชีวิตที่เป็นดุจดังเกลือและดุจดังความสว่างแห่งโลกนี้

รักแท้ที่มีในพระองค์และต่อพระองค์คือความรักที่ได้สำแดงออกเป็นการเชื่อฟังพระองค์ อดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก ติดสนิทในการอธิษฐานการนมัสการและประกาศพระนามของพระคริสต์เจ้าสุดปลายแผ่นดินโลก พบกันใหม่ในเดือนหน้าเดือนแห่งเยาวชนคนหนุ่มสาวปี 2022 ครับผม

ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page