“11ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 12เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น 13จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์ 14เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง” เอเฟซัส 4:11-14
วันนี้ขอขึ้นต้นพบศิษยาภิบาลโดยหยิบยกเอาพระวจนะขึ้นมาเป็นหัวข้ออันสำคัญและเร่งด่วนและมีความจำเป็นนำเสนอต่อพี่น้องในเดือนแห่งครอบครัวคริสเตียนและเดือนแห่งผู้นำคริสเตียน เป็นพระประสงค์และน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ปรารถนาให้คริสเตียนทุกๆ คนได้เจริญเติบโตขึ้นจนถึงความไพบูลย์เป็นผู้ใหญ่แล้วในองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อที่จะสามารถนำพระพรไปสู่ผู้คนอย่างมากมายและหลากหลายได้อย่างดีมีคุณภาพของชีวิตเกิดผลเกิดพระพรในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไป การที่จะมีชีวิตตามแผนการน้ำพระทัยของพระองค์ได้เช่นนี้ เราต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ อันสำคัญต่อชีวิตคริสเตียนของเราโดยสังเขป คือ
(1) เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ามีแผนการอันดีต่อชีวิตคริสเตียนของเรา
กล่าวคือ
ก. ทรงประทานของประทานอันดีและจำเป็นต่อคริสตจักรของพระองค์แต่ละคนมีของประทานอย่างน้อยหนึ่งด้าน ทรงประสงค์ให้ทุกๆ คน ทุกๆ ของประทานที่มีอยู่ถูกนำมาใช้ในพันธกิจการงานของพระองค์อย่างเกิดผลเกิดพระพรเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ในพันธกิจในพระองค์
ข. ทรงประสงค์ที่จะเห็นพระกายของพระองค์ คือ พันธกิจการงานต่างๆ ในคริสตจักรต่างๆ ได้เกิดผลเติบโตอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง แข็งแกร่งและมีความเป็นเอกภาพ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อร่วมกันประกาศความรอดขององค์พระคริสต์เจ้าแก่โลกนี้
ค. เราต้องเรียนรู้ที่จะรับใช้ในพระองค์อย่างเฉลียวฉลาดมีปฏิภาณไหวพริบอันดีในการรับใช้พระองค์ทั้งนี้โดยการติดสนิทในพระองค์ รับการสอน รับการฝึกฝนที่จะต่อสู้กับศัตรูฝ่ายวิญญาณโดยการพึ่งพิงในฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่งของพระองค์นั่นเอง
การใกล้ชิดในพระคำ การเต็มล้นด้วยองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตจึงเป็นเงื่อนไขอันจำเป็นและสำคัญในชีวิตเช่นนี้
(2) เราต้องละทิ้งชีวิตเก่าในการบาปต่างๆ โดยการพึ่งพิงในพระองค์และบังเกิดใหม่ในพระองค์
ใช้ชีวิตในทางบริสุทธิ์และต้องสมัครใจในการเดินทางติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความเต็มใจเป็นสำคัญ การบังเกิดใหม่และรับการเติมเต็มด้วยพระคำในชีวิตด้วยพระวิญญาณ สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ด้วยหัวใจแห่งความรัก
“29พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “ธรรมบัญญัติเอกนั้นคือว่า โอ ชนอิสราเอลจงฟังเถิด พระเจ้าของเราทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าเดียว 30และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน 31และธรรมบัญญัติที่สองนั้นคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติอื่นที่ใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งสองนี้ไม่มี”” มาระโก 12:29-31
ชีวิตเช่นนี้จะมีกำลังอันมหาศาลในพระองค์
“21เพื่อว่ามือของเราจะอยู่กับเขาเป็นนิตย์ และแขนของเราจะเสริมกำลังของเขา 22ศัตรูจะหลอกเขาไม่ได้ คนที่ประพฤติผิดจะข่มเขาไม่ได้” สดุดี 89:21-22
(3) เป้าหมายสูงสุดของชีวิตคือการได้เกิดผลมีชีวิตอันเป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระองค์สูงสุด
โดยการเรียนรู้ฝึกฝนชีวิตที่จะมีความเชื่อวางใจที่เจริญขึ้นในพระองค์ ในชีวิตของเราเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนแผนการและน้ำพระทัยของพระองค์บนโลกใบนี้ การทรงนำ การจัดเตรียม ฯลฯ มีแก่ชีวิตของเรา แก่ชีวิตของคนของพระองค์อย่างไม่ได้ขาด เกิดผลอย่างเต็มที่อย่างเต็มขนาดในพระองค์ร่วมกับพี่น้องในพระคริสต์เจ้าและประสานเชื่อมโยงกันด้วยความรักในพระองค์เป็นประจักษ์
องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานสิ่งดีๆ ให้กับแต่ละคนอย่างเหมาะสม ขอให้พวกเรานำสิ่งเหล่านั้นมาใช่อย่างถวายเกียรติแด่พระองค์เพื่อเป็นพระพรทั้งต่อผู้อื่นและต่อตัวเองอย่างเหมาะสมนั่นเอง องค์พระคริสต์เจ้าจะได้ถูกประกาศออกไปจากชีวิตของเราเป็นประจักษ์พยานแก่โลกนี้ทิ้งชีวิตเก่าในการบาป แสวงหาโอกาสแห่งการรับใช้และเกิดผลร่วมกับพี่น้องคริสเตียนคนอื่นๆ ในความรักของพระองค์ แน่นอนเคล็ดลับคือการพัฒนาถวายตัวรับการเสริมสร้างให้ได้เป็นผู้นำคริสเตียนอันเข้มแข็งและแข็งแกร่ง ท่านพร้อมหรือยังสำหรับการเข้าสู่ขบวนการหล่อหลอมเช่นนั้น ยกมือขึ้น อาเมน อาเมน และอาเมน พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับผม