พบกับ ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส

การประกาศข่าวประเสริฐและการสร้างสาวกเป็นพันธกิจที่ทรงคุณค่า

และสำคัญยิ่งที่คริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าในทุกๆ ยุคทุกๆ สมัย

ต้องเอาใจใส่และถือว่าเป็นพันธกิจที่ต้องกระทำอย่างรีบเร่ง

หรือเป็นพันธกิจเร่งด่วนที่จะละเลยไม่ได้

พระธรรมยอห์น 3:16 “16เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์

เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”

พระวจนะตอนนี้ก็คงอยู่ในชีวิตคริสเตียนของเรา เหตุผลสำคัญคือความรักที่พระองค์ทรงมีต่อโลกผ่านคนของพระองค์

ความรักที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้เห็นได้อิ่มได้ทั้งกายใจและจิตวิญญาณ ประกอบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระมหาบัญชาที่มิอาจจะขัดขืนได้

“19เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์

20สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”

มัทธิว 28:19-20

คริสตจักรใดๆ ที่กระทำตามและเชื่อฟังก็จะเจริญเติบโตก้าวหน้าเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้นไปอีก และเป็นความจริงที่ว่าการที่จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาของการถูกผลักทิ้งที่บึงไฟนรกนั้นมีทางรอดอยู่ ทางเดียวคือการเชื่อวางใจในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าเท่านั้น

“6พระเยซูตรัสกับเขาว่า เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา”

ยอห์น 14:6 และ

“12ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า”

กิจการ 4:12

ซึ่งพระวจนะตอนนี้ได้เปิดเผยความจริงที่พวกเราต้องรีบเร่งออกประกาศสร้างสาวกเพราะมีทางเดียวเท่านั้นทุกๆ

คนในโลกนี้ควรได้รับโอกาสที่จะได้สัมผัสกับพระกิตติคุณและไดรับโอกาสแห่งการตัดสินใจว่าจะติดตามองค์พระคริสต์เจ้าหรือไม่ด้วยตัวเอง

แม้แต่สัก 1 ครั้งก็ตาม คริสตจักรที่ใส่ใจในพระมหาบัญชาย่อมไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคและปัญหาต่างๆ ที่จะรุมเร้าเข้ามา

ทั้งปัญหาจากภายในคริสตจักรเองและปัญหาจากภายนอกคริสตจักรเองโดยเฉพาะการกดขี่ข่มเหงในชีวิตของผู้เชื่อ

ในทางกลับกันการใส่ใจในการทำพันธกิจด้านการประกาศและสร้างสาวกกลับนำพาคริสตจักรให้เข้มแข็งทั้งจากภายในและภายนอกคริสตจักรได้เป็นอย่างดี

ความรักและความสามัคคีที่เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้นสมกับการเป็นเกลือและเป็นความสว่างของแผ่นดินโลก เรากำลังทำสงครามฝ่ายวิญญาณในการแย่งชิงดวง

วิญญาณมาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ยุทธวิธีในการรับใช้พระองค์ในด้านนี้มีหลากหลายวิธีการหรือยุทธวิธีตามการทรงนำของพระองค์

เราต้องเรียนรู้และพึ่งพาฤทธิ์แห่งพระคำและฤทธานุภาพขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสำคัญด้วย

“8แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” กิจการ 1:8

โลกทั้งใบอยู่ในคำอธิษฐานเผื่อและเป็นสนามของการประกาศข่าวประเสริฐ คนทั้งโลกทุกๆ คนคือหน้าที่อันสำคัญและยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราที่จะต้องนำดวงวิญญาณทุกๆ ดวงวิญญาณให้ได้กลับมายังแผ่นดินของพระองค์ในที่สุด แน่นอน

“29ผู้ใดได้สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิงหรือบิดามารดา หรือลูกหรือไร่นาเพราะเห็นแก่นามของเรา ผู้นั้นจะได้ผลร้อยเท่าและจะได้ชีวิตนิรันดร์ด้วย”

มัทธิว 19:29

นี่เป็นส่วนหนึ่งของบำเหน็จรางวัลที่พระองค์จะมอบแก่ผู้ที่สัตย์ซื่อในการรับใช้พระองค์อย่างเอาจริงเอาจังและอย่างใจใส่

และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญยิ่งที่พวกเราจะเพิกเฉยและละเลยไม่ได้คือ เวลาของพวกเราก็มีจำกัดและเวลาของโลกนี้ทั่วไปก็มีจำกัดเช่นกัน

“8ท่านทั้งหลายก็จงอดทนเช่นนั้นเหมือนกัน จงตั้งอกตั้งใจให้ดี เพราะใกล้จะถึงเวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาแล้ว” ยากอบ 5:8

เมื่อองค์พระคริสต์เจ้าจะเสด็จกลับมาครั้งที่สองเมื่อใดโอกาสแห่งการกลับใจเสียใหม่ก็จะสายเกินแก้แล้วต้องรีบเร่งทำการเสียแต่วันนี้

“4เราต้องกระทำพระราชกิจของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาเมื่อยังวันอยู่ เมื่อถึงกลางคืนไม่มีผู้ใดทำงานได้” ยอห์น 9:4

เวลาอันจำกัดในชีวิตของเราเองและเวลาการพิพากษาโลกก็ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราจะวางเฉยนิ่งดูดายก็ไม่ได้

วันนี้คือวันที่เราต้องใส่ใจในพันธกิจนี้อย่างเอาจริงเอาจัง

การจะทำพันธกิจในการประกาศและสร้างสาวกอย่างเกิดผลเกิดพรเราต้องอาศัยปัจจัยหลักๆ โดยสังเขปคือ

(1) ประกาศพระวจนะอย่างเอาจริงเอาจัง

“16และเมื่อเจ้าทวีและเพิ่มขึ้นในแผ่นดินนั้น ในครั้งนั้น เขาทั้งหลายจะไม่กล่าวอีกว่า “หีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า” เรื่องนี้จะไม่มีขึ้นในใจ ไม่มีใครกล่าวถึง ไม่มีใครนึกถึง จะไม่ทำกันขึ้นอีกเลย” เยเรมีย์ 3:16

(2) พึ่งฤทธานุภาพ ฤทธิเดชแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในการทำพันธกิจการประกาศและสร้างสาวก “5เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้อาศัยสติปัญญาของมนุษย์ แต่อาศัยฤทธิ์เดชของพระเจ้า” 1 โครินธ์ 2:5

(3) ชีวิตที่เหมือนพระคริสต์ พระองค์ทรงสละชีวิตของพระองค์ในการทำพันธกจิอันสำคัญนี้ เปาโลท้าชวนเราว่า “1ท่านทั้งหลายก็จงปฏิบัติตามอย่างข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามอย่างพระคริสต์” 1 โครินธ์ 11:1

ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำและอวยพระพรมายังพี่น้องทุกๆ ท่านถ้วนหน้ากันในการออกประกาศข่าวประเสริฐและสร้างสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้าในทุกๆ ที่ทุกๆ หนแห่ง ใช้ทุกๆ โอกาสโดยประกาศพระคำพึ่งฤทธานุภาพของพระองค์ตามแบบอย่างของพระคริสต์เจ้า

พบกันหม่ในสัปดาห์ หน้าครับผม

“22มวลมนุษย์ทั่วแผ่นดินโลกเอ๋ย จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดอีก” อิสยาห์ 45:22 อาเมน

โดย ศจ.ดร. วัฒนา พรหมโคตร ศิษยาภิบาลอาวุโส